ไฟเขียว! งบ 1.38 หมื่นล้าน ทอ. จัดซื้อ เครื่องบินขับไล่ แทน F-16

ครม. เคาะงบประมาณ ทอ. จัดซื้อ เครื่องบินขับไล่ ทดแทน F-16 กรอบวงเงิน 13,800 ล้านบาท

12 ม.ค. 65 วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร รายงานว่า พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษก กองทัพอากาศ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าว ว่าที่ประชุม ครม. ได้อนุมัติกรอบงบประมาณ ของปี 2566 และการผูกพันงบประมาณที่เกิน 1,000 ล้านบาท ของกองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยรวมทั้งโครงการเป็นการพิจารณาจัดหา เครื่องบินขับไล่ โจมตี ของกองทัพอากาศเพื่อทดแทนเครื่องบิน F-16 งบประมาณ 13,800 ล้านบาท นั้น ทาง ครม. ได้อนุมัติ จัดซื้อ เครื่องบินรบ ฝูงใหม่ โดยเสนอของบประมาณปี 2566 วงเงิน 13,800 ล้านจำนวน 4 เครื่องแรก จัดซื้อผูกพัน 4 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2569

พร้อมกับตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด คือ คณะกรรมการศึกษาฯ และคณะกรรมการจัดหา เตรียมนำเข้า ครม. ขออนุมัติหลักการและกรอบวงเงินงบประมาณ

ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดแรก มี พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันทน์ รอง ผบ.ทอ. เป็นประธาน และอีกคณะมีพล.อ.อ.พันธุ์ภักดี พัฒนกุล เสนาธิการทหารอากาศ เป็นประธานคณะกรรมการ พิจารณาจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี

พล.อ.ต.ประภาส เผยอีกว่า อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะจัดซื้อเครื่อง F-35 แต่ทางผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ตั้งความหวังว่า อยากได้เครื่อง F-35 เพราะราคาลดลงมามาก แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพิจารณาความจำเป็นทางยุทธการว่า ในท้ายสุดแล้ว เครื่องบินขับไล่แบบใดที่จะเหมาะสมกับ กองทัพอากาศไทย รวมถึงจะคุ้มทุนหรือไม่

ซึ่งถ้าหากได้ผ่านขั้นตอน และกระบวนการเพื่อให้รายการนี้ได้บรรจุอยู่ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 66 ที่จะต้องนำเสนอสู่สภาผู้แทนราษฎรแล้ว กองทัพอากาศ ก็จะได้เตรียมการชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

ระหว่างนี้ กองทัพอากาศ ได้ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการศึกษารวบรวมข้อมูลและจัดทำความต้องการของโครงการเพื่อให้พิจารณาความเหมาะสมรายละเอียดในทุกด้านให้รอบคอบ รวมถึงข้อมูลทางเทคนิค ต้องสอดคล้องกับสภาพงบประมาณที่กองทัพได้รับจัดสรรให้มากที่สุด ก่อนการนำเสนอตามกระบวนการของบประมาณ

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าการเตรียมการเสนอโครงการ จะต้องผ่านการพิจารณาศึกษารวบรวมข้อมูลอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ความมั่นคงและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ

การจัดหาเครื่องบินสมรรถนะสูงทดแทน ต้องใช้เวลาในกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงมีความพร้อมสามารถปฏิบัติภารกิจตามแผนป้องกันประเทศได้ โดยจะต้องใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 10-12 ปี และจะอยู่ประจำการในกองทัพต่อไปอีกประมาณ 40 ปี พล.อ.ต.ประภาส กล่าวในตอนท้าย

คลิปอีจันแนะนำ
เดือด! ตำรวจไทยไม่พัฒนา?