ไม่รอด ตำรวจ ปส. รวบ หนุ่มไต้หวัน ลอบ ผสมเคนมผง คาคอนโด

ตำรวจ ปส. รวบ หนุ่มไต้หวัน ลอบ ผสมเคนมผง คาคอนโด ผบ.ตร. เผย พบคดียาข้ามชาติอื้อ

รวบคาคอนโด หนุ่มไต้หวัน ผสม-ค้า เคนมผง ยานรกกลางกรุงฯ

วันนี้ (25 ม.ค. 63) ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) เข้าจับกุม นาย โช วาย เชิน (chou yi Shen) หรือ Mr.Liu chun chen หนุ่มสัญชาติไต้หวัน ได้ในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านอโศกมนตรี พร้อมยึดของกลางเป็น

1. เคตามีน 4 กิโลกรัม

2. ยาอี จำนวน 376 เม็ด

3. ไอซ์ 4 กิโลกรัม

4. เฮโรอีน 8 กิโลกรัม

5. โคเคน 11.6 กรัม

6. LSD หรือ แสตมป์มรณะ 48 แผ่น

7. โดมิคุ่มหรือยานอนหลับ 2 ขวด

8. ยานอนหลับชนิดเม็ด ไฟว์ไฟว์ 265 เม็ด

9. เครื่องซีลพลาสติก 2 เครื่อง

10. เครื่องปั่น 2 เครื่อง

11. เครื่องชั่งดิจิตอล 2 เครื่อง

12. แก้วบีกเกอร์พลาสติก 2 ใบ

13. ถุงพลาสติกใส และแพ็กเกจใส่สารเสพติด

15. อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน

อีกทั้งยังตรวจสอบในห้องพักนายโช พบว่า สภาพเหมือนเป็นห้องแล็บ พบยาเสพติดหลายชนิดที่คาดว่านำมาผสมเป็นค็อกเทลยาเสพติด รวมทั้งเคนมผงด้วย

จากการสืบสวน นาย โช มีฉายาในประเทศไต้หวันว่า “ลูแปง” มีเครดิตดี เป็นที่น่าเชื่อถือของกลุ่มค้ายาเสพติดรายใหญ่ในไต้หวัน อีกทั้ง โดยนายโช ได้ใช้ชื่อปลอม และมีสำเนาหนังสือเดินทางหลายสัญชาติ อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับคดียาเสพติดหลายคดี ของประเทศไต้หวัน และเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2556 เป็นเอเย่นต์จำหน่ายยาเสพติดให้ลูกค้าในกรุงเทพมหานคร และมักเช่าคอนโดมิเนียมหรู ระดับ 5 ดาว เพื่อหลบซ่อนตัวอยู่ในย่านลุมพินี , พระราม 9 , ทาวน์อินทาว ,รามคำแหง และสุขุมวิท

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เผยว่า พบยาเสพติดผสมอยู่ในห้องพัก ซึ่งต้องนำไปตรวจสอบว่าเป็นชนิดเดียวกันกับเคนมผงหรือไม่ และอยู่ระหว่างขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง

จากข้อมูลของ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด พบว่า ประมาณเดือนตุลาคม 2563 สามารถตรวจยึดเคนมผง ได้เป็นครั้งแรก โดยมีการซุกซ่อนอยู่ในกล่องขนมเตรียมส่งพัสดุ ปลายทางประเทศสหรัฐอารับเอมิเรตส์ จึงขยายผลจนทราบว่า นายโช มีส่วนเกี่ยวข้องคือเป็นผู้ผสมยาเสพติด หรือในวงการเรียกว่าค็อกเทล โดยมีสูตรการผสมยาเสพติดอยู่ในโทรศัพท์ จากนั้นก็ส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ โดยผ่านดาร์กเว็ป สื่อโซเชียล และจ่ายเงินด้วยบิทคอย

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า เนื่องจากเคตามีน เป็นที่นิยมของกลุ่มนักเสพในประเทศไต้หวัน จึงมีนายทุนชาวไต้หวัน มาเปิดโรงงานผลิตเคตามีนอยู่ตามแนวชายแดนไทยฝั่งเมียนมา ซึ่งยาเสพติดที่ได้จะแบ่งเป็นสามส่วนคือ จำหน่ายในประเทศไทย , ส่งกลับไปจำหน่ายที่ประเทศไต้หวัน และส่งจำหน่ายยังประเทศที่สาม โดยเฉพาะในโซนยุโรป จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มักพบชาวไต้หวัน ไปมีส่วนพัวพันกับการค้าเคตามีน