ไม่ละอายใจ ! 2 โจรสาวแสบ ป้ายยายายวัย 85 ฉกเงิน-ทองร่วมแสน หนีลอยนวล

ตำรวจ บุรีรัมย์ เร่งล่า 2 โจรสาวแสบ แอ๊บเนียนขอซื้อ มะขามเปียก ยายวัย 85 ก่อน ป้ายยา ฉกเงิน-ทอง ร่วมแสน หนีหายเข้ากลีบเมฆ

เตือนภัยสังคม อย่าปล่อยคนแก่อยู่บ้านคนเดียว !

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณยายน้อย วัย 85 ปี โดยคุณยายเล่าว่า ช่วงบ่ายของวันที่ 22 มี.ค.64 ที่ผ่านมา คนร้ายเป็นผู้หญิง 2 คน อายุประมาณ 40 – 50 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาในหมู่บ้านดงพัฒนา ต.ดงอีจาน อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ แล้วทำทีเข้ามาพูดคุยตีสนิท ซึ่งตอนนั้นตนกำลังนั่งแกะมะขามเปียก โดย 2 สาวบอกว่าจะขอซื้อมะขามเปียกเอาไปทำน้ำจิ้มลูกชิ้น โดยเสนอให้ราคากิโลกรัมละ 70 บาท ตนก็ดีใจเพราะสูงกว่าราคาซื้อขายในท้องตลาด คือ กิโลกรัมละ 60 บาท ระหว่างที่นั่งคุยกันอยู่อย่างถูกคอ คนหนึ่งออกอุบายปวดท้องขอเข้าห้องน้ำ ส่วนอีกคนหลอกล่อพูดคุย

ซึ่งด้วยความรอบคอบเพราะอยู่บ้านคนเดียวจึงล็อกประตูเอาไว้ แต่กลับหลงเชื่อคนร้ายทั้งสอง ซึ่งช่วงยื่นเอากุญแจให้คนร้ายไปเปิดประตูเพื่อเข้าห้องน้ำ ก็รู้สึกว่าตาพร่ามัว ปากคอแห้ง และมีอาการเบลอๆ แต่ก็พยายามประคองสติ และรู้สึกว่าหนึ่งในคนร้ายเข้าห้องน้ำนานผิดปกติ แต่ก็ไม่กล้าลุกเดินตามเพราะกลัวหญิงอีกคนที่นั่งประกบอยู่จะทำร้าย กระทั่งหญิงคนนั้นเดินออกมาจากบ้านไป แล้วก็ให้เงินค่ามัดจำมะขามเปียกไว้ 300 บาท ก่อนจะขึ้นรถจักรยานยนต์ขับหนีไปอย่างลอยนวล

จากนั้นตนจึงตัดสินใจลุกขึ้นไปในบ้าน ก่อนพบว่ากระเป๋าผ้าที่ใส่สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จี้ทอง 50 สตางค์ และเงินสดอีก 15,700 บาท ซุกไว้ใต้ที่นอนหายเกลี้ยงหมด เหลือเพียงกระเป๋าสะพายทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า จากนั้นจึงเดินไปบอกลูกสาวและแจ้งตำรวจ สภ.โนนสุวรรณ

ยายน้อย ผู้เสียหาย เล่าอีกว่า เงินสดที่ถูกคนร้ายขโมยเอาไป เป็นเงินที่ได้จากการนั่งแกะมะขามเปียกขาย แล้วเก็บออมสะสมไว้ทำบุญช่วงสงกรานต์เดือนหน้า แต่มาถูก 2 โจรสาวขโมยเอาไปจนเกลี้ยง อยากวิงวอนให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายทั้งสองมาดำเนินคดีโดยเร็ว พร้อมทั้งฝากถึงคนร้าย ถ้าสำนึกได้และเห็นใจคนแก่ก็ให้เอาเงินและทองที่ขโมยไปมาคืน แล้วจะไม่เอาเรื่อง

ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (24 มี.ค.64) พ.ต.อ.วิศิษฎ์ บัวสง่าวงศ์ ผู้กำกับการ สภ.โนนสุวรรณ ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบ ลงพื้นที่หาข้อมูลเบาะแส แกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งในหมู่บ้าน และตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี

จากการตรวจสอบเบื้องต้น มีกล้องวงจรปิดในหมู่บ้านที่สามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านออกไปท้ายหมู่บ้านได้ แต่รถไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียน และมีการสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า จึงอาจจะยากต่อการติดตาม แต่หากใครมีข้อมูลเบาะแสก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ เพื่อจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายรายอื่นมาแจ้งความเพิ่มเติมแต่อย่างใด

ขณะที่นางหนู สุขใหญ่ อายุ 56 ปี ลูกสาวยาย บอกว่า วันเกิดเหตุตนไปหยอดทรายอะเบทกำจัดลูกน้ำยุงลายในหมู่บ้าน และมีคนโทรไปบอกว่ามีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์แม่ก็รีบกลับมาดู ก็เห็นแม่มีอาการสะลึมสะลือ ปากด้านล่างบวมเป่ง คล้ายกันคนโดนป้ายยา จึงได้พาแม่ไปแจ้งความและไปหาหมอที่โรงพยาบาล ซึ่งหมอก็ฉีดยาแก้แพ้ให้

จนตอนเย็นปากที่บวมก็ลดลง และอาการสะลึมสะลือก็หาย ซึ่งบุคคลทั้ง 2 ถือเป็นภัยสังคมเลือกเหยื่อที่เป็นคนแก่ จึงอยากฝากเตือน อย่าปล่อยผู้สูงอายุอยู่บ้านคนเดียว เพราะ อาจตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ และอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามจับกุมคนร้ายทั้ง 2 คนมาดำเนินคดีก่อนจะไปก่อเหตุกับคนอื่น