จากการรายงานยอดการติดเชื้อโควิด 19 ของทาง ศบค. บวกกับ เเพทย์โรงพยาบาลใหญ่ๆ ออกมาเเจ้งถึงวิกฤตเตียงรักษาโควิดล้น อาจต้องถึงเวลาที่หมอต้องเลือกคนไข้ โดยเมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้(25 มิ.ย. 64) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เผยช่วงบ่ายจะมีการประชุมหารือกับทุกฝ่าย ซึ่งต้องรับฟังความเห็นจากแพทย์ประกอบด้วย ว่าจะมีการล็อกดาวน์กรุงเทพหรือไม่
กระทั่งเวลา 17.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังประชุมว่า ที่ประชุมวันนี้มีการพูดคุยอยู่ 3-4 เรื่อง เรื่องแรกคือ การบริหารจัดการวัคซีน รัฐบาลก็ได้มีการเจรจาในการจัดหาเพิ่มเติม และเตรียมแผนในการฉีดให้ตรงกับเป้าหมาย ตามสถานการณืที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่สิ่งที่ยืนยันในวันนี้ว่า ในช่วง 2 เดือน จาก ก.ค. – ส.ค. จะเริ่มฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรคที่กำหนดไว้ให้ได้ทุกคน ตามที่มีการขึ้นทะเบียนเอาไว้ อีกส่วนหนึ่งก็คือกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ก็จะทยอยดำเนินการ
เรื่องที่สอง คือสถานการณ์การแพร่ระบาดในขณะนี้ ก็รับฟังจากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก็มีความห่วงใย ในกลุ่มคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะแคมป์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพ ได้หารือกันแล้วและสั่งการให้มีการปิดแคมป์ทุกที่ เป็นระยะเวลา 1 เดือน เพื่อระงับการแพร่ระบาด ส่วนถ้าปิดแคมป์แล้วก็ต้องดูต่อว่าจะช่วยเหลือได้อย่างไร ซึ่งกระทรวงแรงงานก็จะเข้าไปดูแลในเรื่องค่าใช้จ่ายของแต่ละแคมป์ในช่วงที่ปิด และแรงงานในแคมป์ก็ต้องมีการจำกัดพื้นที่ อยู่ภายในแคมป์ของตัวเอง ต้องควบคุมให้ได้ในเรื่องคลัสเตอร์กลุ่มแคมป์แรงงานเหล่านี้ สำหรับประเด็นสำคัญที่มีการหารือกันในวันนี้คือเรื่องของ กรุงเทพ ปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้ ที่กำลังมีการแพร่ระบาดมากในขณะนี้ จากการหารือร่วมกันแล้วทุกฝ่าย จะต้องเข้มงวดในกิจการที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดโรค คงไม่ใช่คำว่าปิดทั้งหมด แต่ต้องมีมาตรการเฉพาะออกมาเป็นการชั่วคราว คำว่าล็อกดาวน์มันดูยิ่งใหญ่ ขอใช้คำว่าเป็นกิจการ เป็นพื้นที่ เป็นคลัสเตอร์ ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 64
ส่วนเรื่องโครงการจ้างงานของรัฐ มีความเห็นว่าจะยุติชั่วคราวก่อน 1 เดือน โดยจะมีการยืดเวลาต่อให้ตามสัญญาในโครงการของรัฐ นอกจากนี้ เรื่องมาตรการในการเคลื่อนย้ายคนก็มีการหารือด้วย แต่ถ้าจะห้ามคนทั้งหมดก็คงยาก ทุกจังหวัดทุกพื้นที่ก็คงมีมาตรการของตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็ต้องขอร้องว่าในช่วงนี้ไม่อยากให้มีการเคลื่อนย้ายหรือเดินทางข้ามจังหวัด
ส่วนเรื่องเตียงคนไข้หนัก วันนี้ได้รับรายงาน โดยได้สั่งการไปยังกระทรวงสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร ให้จัดหาเตียงเพิ่มขึ้นประมาณ 100 เตียงแล้วตอนนี้ โดยการตั้งเป็นห้องไอซียู ซึ่งก็ได้เริ่มทำแล้วและให้กระทรวงสาธารณสุขของบประมาณเพิ่มเติม ก็มีคนบริจาคมาช่วยด้วย แต่ข้อสำคัญในเรื่องของการเพิ่มเตียงคนไข้หนักก็ต้องไปเชื่อมโยงกับระบบของโรงพยาบาลด้วย ต้องหาสถานที่ที่เหมาะสม ส่วนเรื่องการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ วันนี้ก็พยายามปรับกันดูว่าจะโยกหรือสลับกันจากตรงไหนมาตรงไหน ซึ่งแพทยสภาและราชวิทยาลัยฯ ก็บอกว่าจะมีนักศึกษาแพทย์ที่จะจบใหม่ จะนำมาช่วยตรงนี้ด้วย เรื่องเครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์รัฐบาลก็ยินดีสนับสนุนให้ทุกประการ ได้บอกกับทางกระทรวงสาธารณสุขไปแล้ว ขาดแคลนตรงไหนก็ให้เสนอเข้ามา
สุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สรุปแล้วว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจสักวัน และตนต้องให้เกียรติรับฟังความเห็นจากแพทย์ทุกท่าน ถึงแม้จะมีความจำเป็นด้านเศรษฐกิจอยู่บ้าง แต่วันนี้สาธารณสุขต้องมีบทบาทนำตรงนี้ ขณะเดียวกันก็ต้องดูว่าจะทำยังไงให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ด้วยอย่างปลอดภัย
