พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่เจ้าหน้าที่พยายามกดดัน หรือ เจรจาเกลี่ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุ มอบตัวนั้น
เจ้าหน้าที่ มีการประเมินสถาณการณ์ตลอดเวลา ซึ่งสถานการณ์มีความสุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตราย ต่อตัวผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพราะผู้ก่อเหตุมีอาวุธพร้อมตอบโต้เจ้าหน้าที่ตลอดเวลา
ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่สามารถเปิดพื้นที่ ในการควบคุมได้มากขึ้น และเปิดช่องว่าง ที่ทำให้เจ้าหน้าที่เห็นตัวผู้ก่อเหตุ โดยสามารถกดดัน ให้ผู้ก่อเหตุ อยู่ในบริเวณชั้นสองของห้องพัก เป็นผลมาจากการใช้โดรนบินเข้าไปตรวจการด้านใน
พล.ต.ท. ธิติ เปิดเผยต่ออีกว่า ในขณะนี้ยังมีความเสี่ยง ที่จะก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่าย จึงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบในการใช้ยุทธวิธีจู่โจม ซึ่งต้องประเมินว่า อาการป่วยของผู้ก่อเหตุ จะต้องใช้วิธีใด
ส่วนยุทธวิธีที่ให้เพื่อนร่วมงานมาร้องเพลงให้ฟัง และมีการจู่โจมควบคู่ไปด้วยนั้น เป็นวิธีที่ดึงดูดความสนใจ แต่จากการปฏิบัติแล้ว ทางผู้ก่อเหตุ ยังมีการตอบโต้
จึงทำให้ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องถอนกำลังมาอยู่ในจุดที่ปลอดภัย
มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาในการเข้าจู่โจม ชุดปฏิบัติการพิเศษ ถูกกระสุนของผู้ก่อเหตุยิงสวนมาถูกหมวก แต่กระสุนแฉลบออกไปทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ และมีการเปิดเผยภาพจากโดรนของเจ้าหน้าที่ ที่สามารถบันทึกภาพผู้ก่อเหตุที่อยู่ภายในบ้านพักได้ชัดเจน ทำให้สามารถระบุตำแหน่งได้