8 วัน ล่าโจรชิงทอง ตำรวจตั้งค่าหัว 20,000 บาท มั่นใจได้ตัวโจร เร็วๆนี้

8 วัน ยังไม่ได้ตัวคนร้าย โจรชิงทอง โลตัสเสนา ล่าสุดตำรวจตั้งค่าหัว 20,000 บาท : บุกเดี่ยวชิงทองโลตัสเสนา

จากกรณีคนร้ายสวมหมวกกันน็อก บุกเดี่ยว เข้าไปภายในห้างสรรพสินค้า โลตัส สาขาเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ใช้ปืนยิงตู้โชว์กวาดทองรูปพรรณหนัก 95 บาท ตีเป็นมูลค่ากว่า 2.8 ล้านบาท ก่อนหลบหนี ยังวางระเบิดปลอมข่มขู่เพื่อถ่วงเวลา

คนร้าย บุกเดี่ยว ชิงทอง ในห้างโลตัส อ.เสนา น้ำหนักกว่า 60 บาท หลบหนีไป

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พ.ย.65 ซึ่งผ่านมา 8 วันแล้ว

ยังติดตามตัวคนร้ายไม่ได้ 

ซึ่งล่าสุด ตำรวจได้ตั้งรางวัลนำจับ 20,000 บาท สำหรับผู้ที่ให้เบาะแสนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้

โดยขณะนี้ เบาะแสที่ตำรวจตรวจพบคือ

รถ จยย.Yamaha Fino สีขาวดำ เบาะสีน้ำตาล ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และ กระเป๋าเป้

ถูกทิ้งไว้ในพงหญ้าข้างทาง ริมถนนวัดบางปลาหมอ-หัวเวียง ม.6 ต.น้ำเต้า อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา

เมื่อกลางดึกวันที่ 9 พ.ย.65

จากการตรวจสอบเลขคอรถ เลขตัวถังของรถจักรยานยนต์คันที่พบ 

พบว่ามีการใช้หินเจียร ลบตัวเลข ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบที่มาของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้

ซึ่งล่าสุด วันนี้ (11 พ.ย.65) ที่ สภ. เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบชภ.1 พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เสนาได้เรียกทีมสืบสวน ประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี

ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งรัดติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ 

ส่วนระเบิด ที่คนร้ายประกอบท่อ PVC และ นาฬิกาดิจิตอลที่ลักษณะคล้ายระเบิดเวลา วางเอาไว้ในที่เกิดเหตุหลังก่อเหตุ 

จากการตรวจสอบ คาดว่า คนร้ายน่าจะจำมาจากภาพยนตร์หรือทางอินเตอร์เน็ต เพราะไม่มีความชำนาญเรื่องการทำวัตถุระเบิด และไม่น่าเป็น ตำรวจ

ส่วนที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า คนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวของตำรวจ

เนื่องจากคนร้ายก่อเหตุ ในวันที่มีการประชุมสหกรณ์ตำรวจของตำรวจภูธรในจังหวัด และมีตำรวจไปร่วมประชุมจำนวนมาก ประเด็นนี้เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีการวางแผนศึกษาเส้นทางหลบหนี ก่อนลงมือก่อเหตุ

และทาง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ได้เผยว่าขณะนี้อยู่ในระหว่าง การรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนและเพียงพอ เพื่อจับกุมตัวคนร้ายได้อย่างสมบูรณ์และส่งตัวดำเนินคดีได้ คาดว่าจะได้ตัวคนร้ายเร็วนี้ๆ 

ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ การก่อเหตุของคนร้ายอุกอาจใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ หากการจับกุม คนร้ายต่อสู้หรือขัดขืน เจ้าหน้าที่จำเป็นที่จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับคนร้าย

ช่วยกันเป็นหูเป็นตานะคะ ใครมีเบาะแส รีบแจ้งตำรวจ หากผู้ก่อเหตุลอยนวล อาจทำให้เกิดความชะล่าใจ และก่อเหตุซ้ำได้