เช็คลิสต์ 6 จุดสังเกต!! Ultherapy แท้ไม่เสี่ยงหน้าพัง

เตือน!! เครื่องอัลเธอร่าปลอมระบาดคลินิกความงามและสาวไทยระวังโดนหลอก เสียเงินฟรี เสี่ยงหน้าพัง

ผู้หญิงกับความสวยความงามเป็นของคู่กัน และความสวยความงามก็เป็นสิ่งที่เสริมสร้างความมั่นใจในชีวิต ผู้หญิงหลายๆ คนจึงหมั่นดูแลตัวเองให้สวยเป๊ะอยู่เสมอ โดยเฉพาะใบหน้า ที่สาวๆ หลายคนก็อยากจะมีใบหน้าที่ได้สัดส่วน ตึงเป๊ะ จึงสรรหาครีมบำรุงมาบำรุงรวมถึงยกกระชับใบหน้าอย่างฉีดโบ​ เติมฟิลเลอร์ และ การยกกระชับหน้าด้วยเทคโนโลยี Ultherapy



ซึ่งเจ้า Ultherapy นี้ ถือเป็นเทคโนโลยีที่สาวๆ นิยมกันมาก แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้มีบางคลินิกหันมาใช้เครื่องอัลเธอร่าปลอม!!! และมีสาวๆ เข้ารับบริการเสริมความงามเพื่อยกกระชับใบหน้า พร้อมความหวังว่าจะออกมาสวยเป๊ะ แต่ผลลัพธ์ที่ได้มามันช่างตรงกันข้ามกับสิ่งที่คิด หน้าไหม้ บวม เป็นแผล เรียกได้ว่านอกจากหน้าจะพังแล้ว ยังเสียเงินไปฟรีๆ !!

ภาพจากอีจัน

24 กันยายน 2562 เมิร์ซ เอสเธติกส์ ผู้นำนวัตกรรมความงามจากเยอรมัน จัดงานแถลงข่าว "UItherapy Real Matters" นำโดย เภสัชกรหญิง กิตติวรรณ รัตนจันทร์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ไทยแลนด์และอินโดไชน่า ที่มาร่วมแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องอัลเธอร่าแท้ พร้อมผลกระทบจากการเข้ารับ
บริการเครื่องอัลเธอร่าปลอม รวมทั้งทำความรู้จักเครื่องอัลเธอร่า กับแพทย์หญิง นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ แพทย์ผิวหนัง ผู้ก่อตั้ง APEX Medical Center และอาจารย์พิเศษสาขาศัลยกรรมผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัย มหิดล พร้อมรับฟังกฎหมายการละเมิดเครื่องหมายการค้า และมาตรการขั้นเด็ดขาดในการจัดการและการแจ้ง-ร้องเรียน จากผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายบริษัท สยาม จัสติส คอร์ปอเรชั่น จำกัด

แพทย์หญิง นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ แพทย์ผิวหนัง ผู้ก่อตั้ง APEX Medical Center และอาจารย์พิเศษสาขาศัลยกรรมผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัย มหิดล กล่าวว่า ปัจจุบัน ธุรกิจคลินิกความงามได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งนวัตกรรมความงามที่ผู้บริโภคให้ความนิยมคือ การใช้คลื่นเสียงอัลตราชาวด์ชนิด Micro Focused UItrasound with Visualization (MFU-V) โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 30-60 นาที เพื่อยกกระชับใบหน้าผ่านเครื่องอัลเธอร่า ซึ่งถือเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ สามารถเห็นผลลัพธ์ทันทีตั้งแต่หลังการรักษา ไม่ต้องพักฟื้น และจะเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้นภายใน 3 เดือน ทั้งนี้ผลลัพธ์จากการรักษาอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี โดยผลลัพธ์ที่ได้ของแต่ละบุคคลนั้นไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวอายุและการดูแลรักษาหลังการทำ

ภาพจากอีจัน

จึงทำให้มีผู้ลอกเลียนแบบเทคโนโลยีความงามนี้เพิ่มมากขึ้น โดยให้ราคาที่ต่ำกว่าเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับผู้เข้ารับบริการ โดยหากผู้เข้ารับบริการรู้เท่าไม่ถึงการณ์และตัดสินใจเข้ารับบริการผ่านเครื่องปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานก็อาจจะทำให้ไม่เห็นผลจนเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ และอาจจะเกิดผลกระทบต่อผิวหน้าได้ 

หมอจึงอยากแนะนำสาวๆ ทุกคนที่อยากสวย ต้องสวยอย่างปลอดภัย ใช้เวลาศึกษาข้อมูลเยอะๆ ว่าเครื่องแท้จริงเป็นอย่างไร มีคลินิกใดบ้างที่ได้มาตรฐานและให้บริการเครื่องแท้ ที่สำคัญคือต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการด้วย

ด้านเภสัชกรหญิง กิตติวรรณ รัตนจันทร์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ไทยแลนด์และอินโดไชน่า กล่าวว่า เครื่องอัลเธอร่า จากเมิร์ซป็นเพียงเครื่องเดียวเท่านั้นที่มีหน้าจอสแกนผิวแบบ real time visualization ช่วยให้แพทย์ผู้ทำการรักษามองเห็นชั้นผิวขณะทำและส่งพลังงานไปยังผิวชั้นที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ ที่สำคัญผ่านการรับรองความปลอดภัยมาจาก FDA (U.S. Food and Drug Administration) สำนักงานอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกาว่า สามารถยกกระชับใบหน้าได้จริงจึงทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพ และยังมีการให้บริการมากกว่า 5,000 เครื่องทั่วโลก และมากกว่า 200 เครื่อง ในคลินิกระดับพรีเมี่ยมทั่วประเทศ

โดยเมิร์ซ เอสเธติกส์ ไทยแลนด์ เป็นผู้นำเข้าเครื่องอัลเธอร่าที่ถูกกฎหมายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย และด้วยประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคคือไม่ต้องพักฟื้น ทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากทั้งผู้เข้ารับบริการและคลินิก

ภาพจากอีจัน

ทั้งนี้อัตราค่าบริการการปรับรูปหน้าโดยใช้เครื่องอัลเธอร่ามีราคาที่ค่อนข้างสูงซึ่งจุดนี้จึงเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดการผลิตและนำเข้าเครื่องอัลเธอร่าปลอมที่ไม่ได้ประสิทธิภาพและผิดมาตฐาน

โดยล่าสุด เมิร์ซ เอสเธติกส์ ได้รับรายงานจากผู้บริโภคผ่านทาง inbox ของ FB Page เรื่องการเข้ารับบริการโดยมีการแอบอ้างและใช้เครื่องอัลเธอร่าปลอม จึงตระหนักถึงอันตรายที่เกิดขึ้น ได้แก่ ไม่เห็นผลในการยกกระชับใบหน้า ทำให้เกิดความเสียหายด้านทรัพย์สิน และยังอาจนำไปสู่การเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อผิว จนกลายเป็นแผลเป็นบนใบหน้าได้อีกด้วย

ภาพจากอีจัน

แล้วแบบนี้เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเจ้าเครื่องอัลเธอร่า ที่เราเข้าไปรับบริการนั้นเป็นของจริง?
สังเกตง่ายๆ แค่ 6 จุดเท่านั้น!!

ภาพจากอีจัน

1.หน้าจอแสดงผลแบบ Real-time visualization
2.โลโก้ UIthera บริเวณหน้าจอ
3.โลโก้ Ulthera ที่หัว Handpiece
4.ปุ่มเปิด-ปิดมีลักษณะบุ๋มเข้าไปข้างในไม่นูนออกมา
5.Access key สีเงิน
6.โลโก้ UIthera ที่ด้านข้าง Cart

ด้านผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย บริษัท สยาม จัสติส คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นสิ่งที่น่ากลัว เพราะสามารถส่งผลกระทบทั้งในระดับผู้บริโภคที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและตนเองได้

โดยสินค้า หรือบริการบางประเภทอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตด้วยเช่นกัน ในระดับผู้ประกอบการ จะได้รับผลกระทบทั้งในด้านของราคาสินค้าและบริการซึ่งจะส่งผลต่อธุรกิจในภาพรวม และหากสินค้าปลอมเกิดปัญหา ผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาแท้จริงก็จะได้รับผลกระทบด้านภาพลักษณ์ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นในสินค้าหรือบริการประเภทนั้น และเสียรายได้จากการเข้าใจผิดถึงแหล่งที่มาของสินค้าจากผู้บริโภคไปด้วย และสำหรับภาคธุรกิจในระดับประเทศเนื่องจากในระดับเศรษฐกิจโลก จะมีสนธิสัญญาระหว่างประเทศในเรื่องของการใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา และยังมีสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ที่คอยตรวจสอบเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาในแต่ประเทศซึ่งการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจะทำให้ประเทศนั้นๆ ถูกตัดสิทธิพิเศษทางการค้าจากสหรัฐฯ และยังส่งผลต่อ "ภาพลักษณ์" ทำให้นักลงทุนที่จะเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศขาดความเชื่อมั่นส่งผลให้ประเทศสูญเสียโอกาสทางการค้าไปอย่างมหาศาล

ภาพจากอีจัน

เพื่อลดปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างมีประสิทธิภาพและถาวรจึงต้องแก้ปัญหาที่ต้นทาง นั่นคือการส่งเสริมให้คนไทยรับรู้ตระหนักและเข้าใจว่าการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญานั้นผิดกฎหมาย ทำอย่างไรจึงจะไม่ละเมิดและปลอดภัยต่อตัวเองโดยสามารถเริ่มได้จากตัวเรา

หากผู้บริโคหรือคลินิกมีการตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการอย่างละเอียด ก็จะสามารถลดความเสี่ยงต่อการถูกหลอกและยังมีส่วนที่จะทำให้ธุรกิจเหล่านี้มีจำนวนลดน้อยลง รวมทั้งหากพบเจอสินค้าหรือบริการที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ผู้บริโภคสามารถแจ้งเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้ดำเนินคดีฟ้องร้องและดำเนินคดีโดยแจ้งร้องทุกข์ได้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ