เปิดบทลงโทษในข้อหาที่แจ้ง “อุ่น” คดีลัลลาเบล

โทษตามประมวลกฎหมายอาญา คดีลัลลาเบล ในข้อหาที่แจ้ง อุ่น แต่ละข้อหาจำคุกกี่ปี

สัปดาห์นี้คดีการตายของ ลัลลาเบล พริตตี้สาว หน้าตาสวย ที่ถูกพบกลายเป็นศพอยู่บนโซฟาหน้าล็อบบี้คอนโด ของ “อุ่น” ชายที่พาเธอออกมาจากงานปาร์ตี้ ที่
เธอรับงานเอนเตอร์เทน เป็นที่จับตามองของสังคมอย่างมาก จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขอหมายจับต่อศาลธนบุรี กระทั่งเวลา
21.30 น. ของวันที่ 24 ก.ย. 62 ศาลธนบุรี ได้พิจารณาออกหมายจับ “อุ่น” 3 ข้อหา คือ

ภาพจากอีจัน

1.หน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
2.พาไปเพื่อกระทำอนาจาร
3.กระทำอนาจาร

เมื่อมีการตั้งข้อหาหลายคนคงอยากทราบว่า โทษตามประมวลกฎหมายอาญา คดีลัลลาเบล ที่ อุ่น จะได้รับนั้นแต่ละข้อหามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง

เกี่ยวกับข้อกล่าวหาดังกล่าว ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต เปิดเผยกับอีจันว่า

ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต

ข้อหา 1 กักขังหน่วงเหนี่ยว โทษสูงสุด 20 ปี

มาตรา 310 ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรก เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย หรือรับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 290 มาตรา 297 หรือมาตรา 298 นั้น

มาตรา 290 ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี ถ้าความผิดนั้นมีลักษณะประการหนึ่งประการใด ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 289 ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-20 ปี

ข้อหา 2 พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โทษสูงสุด 1-10 ปี

มาตรา 284 ผู้ใดพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท ผู้ใดซ่อนเร้นบุคคลซึ่งถูกพาไปตามวรรคแรก ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้พาไปนั้น

ความผิดตามมาตรานี้ เป็นความผิดอันยอมความได้

ข้อหา 3 อนาจารผู้อื่นถึงแก่ความตาย โทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต (ข้อหานี้ ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงอีกครั้ง ว่าการตายเป็นผลโดยตรงจากการถูกกระทำอนาจาร และขณะที่ถูกอนาจารยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ซึ่งมีผลให้อัตราโทษเปลี่ยนแปลงไป)

มาตรา 278 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 280 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 278 หรือมาตรา 279 เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำ
(1) รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 – 400,000 บาท
(2) ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต


"การอุ้มลัลลาเบลออกจากบ้านนั้น ตรงนี้คือการกังขังหน่วงเหนี่ยวแล้ว แล้วจากพฤติการร์ที่ผ่านๆ มาของเขา เขาอุ้มไปที่ห้องอันนี้คือเจตนาเพื่อการอนาจาร ส่วน
จะอุ้มไปเพื่อข่มขืนหรือไม่อันนี้มันไปไม่ถึง เพราะฉะนั้นในเบื้องต้นก็ต้องเป็นเพื่อการอนาจาร มาตรา 310 กับมาตรา 284 จะพ่วงกันอยู่ มาตรา 284 ก็คือการพา
บุคคลไปเพื่อการอนาจาร เนื่องจากว่ามันไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการข่มขืน มันก็เลยหยุดอยู่แค่นี้ เพราะฉะนั้นโทษคือมาตรา 310 290 289(4) รับโทษสูงสุดไม่
เกิน 20 ปี ตามมาตรา 290 วรรค 2

ส่วนในเรื่องการพาบุคคลไปเพื่อการอนาจาร มีโทษไม่เกิน 10 ปี ซึ่งเคสนี้มันเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท อนาจารจะเกิดขึ้นตามจุดมุ่งหมายสุดท้ายของ
เขาคือเขาพาไปเพื่อการอนาจาร คือ มีการถอดเสื้อผ้า เปลี่ยนเสื้อผ้า

ขณะที่ อนาจารตามมาตรา 278 แล้วการอนาจารนั้นถ้าสมมติว่าทำให้คนตาย โทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต แต่ถ้าเกิดว่าน้องเบลตายที่บ้านเท่า
กับว่าอุ่นอุ้มศพออกมาโดยที่สำคัญผิดว่าเป็นบุคคลกรณีนี้โทษจะลดครึ่งหนึ่ง

ทั้งนี้ ในส่วนที่หลายคนเกิดข้อกังว่าน้ำอุ่นจะหลุดคดีหรือไม่ ตนมองว่ายังไงก็น้ำอุ่นก้ต้องได้รับโทษตามกฎหมายแน่นอน"

ภาพจากอีจัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

รวมคลิปปริศนา ลัลลาเบล