ตำรวจทางหลวงขับรถวิทยุ ตามล่า แก๊งขนไอซ์ 320 กก. มูลค่า 320 ล้านบาท

ตำรวจทางหลวงซิ่งรถวิทยุ ล่าขบวนการขนยาข้ามประเทศ ยึดไอซ์ได้มูลค่า 320 ล้านบาท

วันนี้ (26 ก.ย.62) ตำรวจทางหลวง นำกำลังตรวจยึดไอซ์จำนวน 320 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 320 ล้านบาท พร้อมรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า ป้ายทะเบียน 8 กทม. ที่ ริมถนนด่านขุนทด-ชัยบาดาล(ก.2256) มุ่งหน้าชัยบาดาลระหว่างกม.4768 ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

ตำรวจยึดรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า ที่ลอบขนยาไอซ์

พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ทล. เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการยาเสพติดรายใหญ่ลักลอบขนยาเสพติดจากทางภาคอีสานเข้าสู่พื้นที่ กทม.
โดยใช้เส้นทางในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เป็นทางผ่าน

จึงได้วางแผนกระจายกำลังตั้งจุดตรวจเฝ้าสังเกตการณ์สกัดกั้นจับกุมขบวนการยาเสพติด กระทั่งวันเกิดเหตุตำรวจกำลังขับรถวิทยุเพื่อไปตั้งจุดตรวจบนถนนด่านขุนทด-ชัยบาดาล
แต่…สังเกตเห็นรถกระบะ ต้องสงสัยมีลักษณะตรงตามกับที่สายลับแจ้งมา ขับแซงหน้าไป จึงขับประกบไล่ตาม รถคันดังกล่าวก็เร่งเครื่องหลบหนี ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยข้างทาง และทิ้งรถวิ่งหลบหนีเข้าป่าหญ้าข้างทาง

ยาไอซ์หลังรถกระบะ

ตำรวจได้ตรวจสอบภายในรถพบยาไอซ์อัดแท่งถูกบรรจุอยู่ภายในถุงชาสีเขียวทองซึ่งมีถุงพลาสติกและกระดาษฟรอยด์ห่อทับอีกชั้น ซุกอยู่ท้ายกระบะหลังแครี่บอย จำนวนน้ำหนักรวม 320 กิโลกรัม

จากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถคันดังกล่าวเคยมีประวัติขนลำเลียงยาเสพติดจากภาคอีสานลงสู่ภาคใต้มาแล้วจำนวน 2-3 ครั้งก่อนหน้านี้ โดยจะรับยาเสพติดมาจากเครือข่ายยาเสพติดประเทศเพื่อนบ้านริมฝั่งแม่น้ำโขง (สปป.ลาว) เข้าสู่พื้นที่ประเทศไทยในแทบพื้นที่ จ.หนองคาย

จากนั้นก็จะส่งต่อเข้ามาสู่พื้นที่ภาคกลางของไทย เพื่อเตรียมพักของ ก่อนจะลำเลียงส่งต่อลงไปยังภาคใต้โดยมีจุดหมายปลายทางไปยังประเทศที่สาม เพราะหากยาเสพติดล็อตนี้สามารถหลุดไปถึงประเทศที่สามได้มูลค่าทางการตลาดก็จะเพิ่มมากขึ้น 2-3 เท่าตัว

ของกลางที่ยึดได้ ยาไอซ์กว่า 320 กก.
ของกลางที่ยึดได้ ยาไอซ์กว่า 320 กก.

โดยของกลางทั้งหมดนี้ พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เบื้องต้นจะทำการส่งมอบให้กับทางพนักงานสอบสวน สภ.หินดาด ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ส่วนการสืบหาตัวผู้กระทำผิดนั้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบข้อมูลรถคันดังกล่าวอย่างละเอียด พร้อมกับไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆที่รถคันดังกล่าววิ่งผ่าน เพื่อสืบหาพยานหลักฐานขยายผลไปถึงผู้กระทำผิดต่อไป