เล่าชอตต่อชอต! นาที “ลุงแอ๊บ” ตามหาพ่อให้น้องน้ำ หลังพลัดพราก 35 ปี

ไม่อยากจะเชื่อว่า “ลุงแอ๊บ” จะสามารถปิดจ๊อบภารกิจที่คิดว่ายากได้ ใน 2 วัน กับการตามหาพ่อให้ “คุณน้ำ” หลังพลัดพรากกันกว่า 35 ปี

ภารกิจนี้ เริ่มขึ้นหลังจากเราเปิดเพจ “ลุงแอ๊บอีจัน” ขึ้นมา ซึ่ง คุณน้ำ ร้องเรียนเข้ามา บอกว่า ให้ช่วยตามหาพ่อให้หน่อย พ่อชื่อคิด
พ่อกับแม่มีลูก 3 คน เธอเป็นลูกคนสุดท้อง พี่ชายชื่อจ๋อ พี่สาวชื่อสามขวัญ ตอนพ่อกับแม่แยกทางกัน เธอยังอยู่ในท้อง พ่อก็หอบ พี่ชาย กับพี่สาวกลับไปด้วย

ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าตัวเองมีพี่น้อง มารู้อีกทีก่อนแม่จะเสียชีวิต และยอมบอกว่า จริงๆ แล้ว เธอมีพี่น้อง อีกอย่าง พ่อคนที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เล็ก เป็นพ่อเลี้ยง พร้อมกับสั่งลาว่า “หาพ่อให้เจอนะ” และให้เบาะแสแค่ว่า พ่อชื่อคิด ไม่รู้ชื่อจริง นามสกุล พี่ชายและพี่สาว ชื่อจ๋อ และ สามขวัญ บ้านเกิดพ่อ อยู่ที่ เขากะลา จ.นครสวรรค์

เบาะแสมีแค่นี้…ทำ “ลุงแอ๊บ” ถึงขั้นกุมขมับ

แต่! ลุงไม่ถอดใจ พร้อมรับปาก คุณน้ำ บอก จะพยายามหาพ่อให้เจอ….

30 กันยายน 2562 ลุงแอ๊บแท็กทีมลงพื้นที่ ไปตามหา “พ่อคิด” ให้คุณน้ำกัน
เราเริ่มออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ ตอนประมาณ 12.30 น. มุ่งหน้าเขากะลา จ.นครสวรรค์ 4 เกือบ 5 ชั่วโมง ก็ถึงที่หมาย

เปิดภารกิจที่ จุดแรก อบต.เขากะลา อ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์ ไปเจอกับพี่ ศิริพร เจ้าหน้าที่ของที่นี่ พอจอดรถได้ปุ๊บ ลุงแอ๊บ ก็ตรงดิ่ง เข้าไปถามพี่เขาเลยว่า ที่นี่ใช่บ้านเขากะลาหรือเปล่า พี่เขาบอก ที่นี่ไม่ใช่บ้านเขากะลา แต่เป็น ต.เขากะลา อ.พยุหะคีรี ซึ่งมีทั้งหมด 19 หมู่บ้าน

อ้าว! “เขากะลา” เป็นตำบลหรือนี่ ไม่ใช่ชื่อหมู่บ้าน

งานงอก…พระอาทิตย์ก็จะตกดินแล้ว มาถึงเขากะลาก็จริง ดั้นนนน ผิด เขากะลา ซะนี่ ยิ่งค่ำก็ยิ่งทำงานยาก

ลุงแอ๊บ ไม่ท้อ พยายามถามย้ำคำถามเดิมอีกว่า “มันไม่มีจริงๆ เหรอ บ้านเขากะลา ที่ไม่ใช่ตำบล” ถามไปถามมา เหมือนจะเริ่มมีหวัง พี่ศิริพรบอก “จริงๆ มันมีอีกหมู่บ้านหนึ่ง ชื่อบ้าน พุตาฉิ่ง อยู่ ต.พระนอน อ.เมือง เดิมเขาเรียกกันว่า บ้านเขากะลา”

จากเริ่มถอดใจไปแล้ว…ความหวังก็ผุดขึ้นมาอีกนิด

หลังได้เบาะแส เราไม่รอช้า รีบขอบคุณพี่ศิริพร แล้วเผ่นไปอีกเขากะขาดีกว่า… (เดี๋ยวจะมืดเข้าจริงๆ ก่อนเข้าพักวันนี้ขอให้งานคืบหน้านิดหนึ่งก็ยังดี )
ไปต่อไม่รอแล้วนะ^^

ระหว่างทางที่เรากำลังมุ่งหน้าไป หมู่บ้านพุตาฉิ่ง ต.พระนอน เอาจริงๆ ก็ยังไม่รู้หรอกจะไปเริ่มต้นที่ไหนดี

พอดี๊!!! หันไปเจอที่ทำการ อบต.พระนอน ก็คุยกันในรถว่า “เอาไงๆ เลี้ยวมั๊ยๆ” ตอนนั้นมัน 5 จะ 6 โมงแล้ว เข้าไปก็จะไม่มีเจ้าหน้าที่ทำงาน กลัวไม่มีใครให้ข้อมูลได้ เดี๋ยวจะเสียเที่ยว

ระหว่างกำลังตัดสินใจกันอยู่ ลุงแอ๊บก็พูดขึ้นว่า “เอ้า! เข้าไปหน่อยก็ได้ ไม่เสียหาย” โอเค ตัดสินใจเข้าไปข้างใน อบต. พระนอน (จะไม่เข้าก็ไม่ได้ เพราะลุงแอ๊บเป็นคนขับรถ 5555)

พอเข้าไปถึงข้างใน (ไม่เสียเที่ยวแฮะ ^^) เราเจอพี่ๆ จนท.ตำรวจ สภ.จว.นครสวรรค์ หนึ่งในนั้นชื่อ พี่ดาบเนตร เราก็ด่วนถามถึงคนชื่อ คิด บ้านเขากะลาทันที ตอนแรกก็ดู งงๆ เขาบอกว่า เขากะลามันมี 2 ที่นะ ที่แรกคือ ต.เขากะลา อ.พยุหะคีรี แต่มันมี 19 หมู่บ้าน และอีกที่คือ บ้านพุตาฉิ่ง หรือที่เคยเรียกว่า “บ้านเขากะลา”

คุยกันอยู่สักพัก ก็ตัดสินใจได้ว่า ถ้าจะไปตามหา 19 หมู่บ้านก็คงไม่ไหว ลองเริ่มจาก หมู่บ้านพุตาฉิ่ง ก่อนก็แล้วกัน พี่ดาบเนตร แนะนำให้ไปหาผู้ใหญ่หมู่ 10 บ้านพุตาฉิ่ง พร้อมอาสานำทาง

โอเค ตัดสินใจไปกับพี่ดาบเนตร…ทีมลุงแอ๊บ ไม่รอช้า กระโดดขึ้นหลังกระบะ ไปตามหาเบาะแส พ่อคิดกัน!!! จาก อบต.พระนอน ไปบ้านผู้ใหญ่ ระยะทางประมาณ 4-5 กิโลเมตร ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีก็ถึง

ไปถึงบ้านผู้ใหญ่ แต่…ไม่เจอผู้ใหญ่ เจอแต่เมียผู้ใหญ่ชื่อ “แม่บังอร” ถามชื่อใครก็ไม่คุ้นเลย (ว้า… หรือความพยายามวันนี้ จะสูญเปล่า)

แม่บังอร บอกว่า ตนไม่ใช่คนที่นี่ตั้งแต่เกิด แนะนำให้รอถามผู้ใหญ่ดีกว่า เพราะผู้ใหญ่เกิดที่นี่ โตที่นี่ น่าจะรู้จักทุกคนที่นี่ดีกว่า  เราตัดสินใจโทรหาผู้ใหญ่ แต่ผู้ใหญ่ไม่รับสายเลย (สงสัยติดธุระอยู่) แต่…ลุงแอ๊บก็ยังไม่ถอดใจ บอกแม่บังอรว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้มาใหม่ วันนี้ถอยทัพไปตั้งหลักก่อนก็แล้วกัน

กำลังจะก้าวขาขึ้นรถ ผู้ใหญ่ก็ขับรถเลี้ยวเข้าบ้านมาทันที (นี่มันดวงคนจะได้เจอกันชัดๆ)

คุยกันไปสักพัก ผู้ใหญ่บอก เท่าที่ฟังๆ ดู มันก็มีอยู่ “คิด” เดียวนี่แหละ ชื่อ “สมคิด แตงไทย” มีลูกติดมา 2 คน เอามาให้พ่อกับแม่มันเลี้ยงไว้ ก่อนจะไปทำงานที่กรุงเทพฯ
ใช่จริงๆ ด้วย หอบลูก 2 คน กลับบ้านเกิด อายุก็ใกล้เคียงกับที่คำนวณไว้ ความหวังเริ่มชัดเรื่อยๆ เบาะแสตามต่อได้

แต่มันมืดแล้ว ต้องเข้าที่พักก่อน รุ่งขึ้นค่อยตามกันต่อ เรานัดผู้ใหญ่ เจอกันตอนเช้า ให้พาไปบ้าน “สมคิด แตงไทย” ดูซิ จะใช่หรือไม่!

1 ตุลาคม 2562 เริ่มภารกิจกันแต่เช้า จากที่พัก มุ่งหน้าบ้านผู้ใหญ่ พุตาฉิ่งอีกรอบ

ไปถึงบ้านผู้ใหญ่ก็วางแผน กันก่อนเข้าไปบ้าน “สมคิด แตงไทย” ต่างคนต่างมั่นใจว่าต้องใช่คนที่ตามหาแน่ๆ จากที่เล่าๆ มา มันใกล้เคียงมากกกก พากันขนลุกยกใหญ่ ที่จะได้ทำบุญครั้งใหญ่ร่วมกัน การทำให้คนพลัดพรากได้เจอกัน ตั้ง 35 ปีแหน่ะ

จากนั้น เราก็ออกเดินทางไปบ้าน “สมคิด แตงไทย” กัน!
ไปถึงปุ๊บ เรียกหาใคร ก็ไม่มีใครขานรับ ใช่! ไม่มีใครอยู่บ้าน

ระหว่างเรียกหาปู่และย่า ซึ่งเป็นพ่อแม่ของ “สมคิด” จู่ๆ เพื่อนบ้านก็ตะโกนมาบอกว่า แกไม่อยู่บ้านหรอก แกไปสวนกันโน่น

ตามไปสวนสิ! รออะไร^^

พอไปถึงสวนก็เจอคุณปู่กำลังแหย่ไข่มดแดงอยู่ ส่วนคุณย่าก็ตัดหญ้าอยู่ในสวนอย่างขะมักเขม้น เราให้ผู้ใหญ่ เปิดทางให้ก่อน เดี๋ยวปู่ย่า เจอคนแปลกหน้ามาถามหาลูกชาย จะตกใจเอา

ผู้ใหญ่เข้าไปพาคุณย่าออกมาจากในสวน แกก็ออกมาด้วยสีหน้า งงๆ พร้อมหอบๆ จากการตัดหญ้า ถามอะไรก็จำไม่ได้เลย เอ้า! ถอดใจเป็นรอบที่ 2 (หรือจะไม่ใช่)
แต่….พอได้นั่งคุยกันสักพัก ปู่กะย่าเริ่มใจเย็นลง ได้พักพอหายเหนื่อย เราก็ถามอีกรอบ สรุป ลูกชายคุณย่าเคยมีเมียชื่อ “ซิ้ม” มั๊ย?

ยาย บอก ใช่! เมียแรก “สมคิด” ชื่อ “ซิ้ม” นามสกุล “ฉิวเฉื่อย”

เอ้า! ตรงเป๊ะกับที่น้องน้ำบอกลุงแอ๊บมาเลย แต่ตอนนี้ “สมคิด” ไปทำงานอยู่ บางพลี สมุทรปราการ ล่าสุดเพิ่งกลับบ้าน ลุงแอ๊บ เลยขอเบอร์ “สมคิด” ไว้ เดี๋ยวค่อยว่ากันว่าจะเอาไงต่อ

ส่วนคุณปู่ก็ยิ้มดีใจใหญ่ จะได้เจอหลาน แกบอกว่า ก็เคยตามหานะ แต่ไม่เคยเห็นหน้า เลยไม่รู้ว่าคนไหน ใบหน้าค่าตาเป็นยังไง

เย่! ความพยายามไม่สูญเปล่า ขอบคุณเบาะแส ขอบคุณดวง ขอบคุณโชคชะตา หรืออะไรก็ตามที่ทำให้การตัดสินใจครั้งนี้ สำเร็จ

ที่สำคัญ ขอบคุณ พี่ศิริพร พี่ดาบเนตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่10 บ้านพุตาฉี่ พี่บังอร (เมียผู้ใหญ่) พี่สมบูรณ์ พี่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน คุณปู่คุณย่าของ พี่ “สมคิด แตงไทย” ภารกิจสำเร็จไป 99% แล้ว

อีก 1% ต้องรอ พ่อ-ลูก ได้เจอกัน
ลุงแอ๊บ ปิดภารกิจตามหาเบาะแส พ่อ-ลูก ที่พลัดพรากกัน 35 ปี ใน 2 วัน
ติดตามซีนสุดท้าย น้ำค้างเจอพ่อ #สิ้นสุดความพลัดพราก