หัวใจลูกสลาย…แม่หาย 4 ปี พบถูกฆาตกรรมทิ้งข้างทาง

คนหายกลายเป็นศพ! แม่หายลึกลับ พบถูกฆาตกรรมทิ้งศพข้างทางตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว

หลังจากที่ นายปราโมทย์ หอมดอกพุท ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิกระจกเงา ให้ช่วยตามหานางสุมาลี แสงเดือน ผู้เป็นแม่ที่หายไปเมื่อวันที่ 12 พ.ย.2558 รวม 4 ปีแล้ว

ภาพจากอีจัน

โดยนายปราโมทย์ เปิดใจว่า “ตอนนั้นผมขายปลาหมึกย่างอยู่ที่ลพบุรี แม่ก็ทำงานอยู่สุรินทร์ ก็โทรหาแม่ประจำ แต่ช่วงเกิดเหตุโทรไม่ติด น้องชายก็โทรมาถามว่าติดต่อแม่ได้มั้ย ตอนนั้นก็โทรเช้าโทรเย็นเลยนะ แต่มันไม่ติดเลย ผมก็คิดว่าหรือแม่จะเปลี่ยนเบอร์ เดี๋ยวแกคงโทรมาบอก ให้คนรู้จักขี่รถมาดู เขาไม่รู้จักแม่ผมหรอก แต่เขาผ่านหน้าที่ทำงานแม่เห็นมอเตอร์ไซค์ของแม่ก็ยังจอดอยู่ ผมก็คิดว่าเดี๋ยวคงติดต่อแม่ได้

“ผ่านไปเกือบสองอาทิตย์ ยังติดต่อแม่ไม่ได้ ผมก็หยุดขายของเลย ตอนนั้นเริ่มมีลูกค้าด้วยนะ กำลังไปได้ดีเลย กะว่าจะมาหาแม่สักสองวัน มาถึง บขส.สุรินทร์ก็เดินไปที่ห้องเช่าของแม่ แต่ห้องล็อคกุญแจอยู่ เลยมาที่ทำงานแม่ ได้คุยกับเพื่อนร่วมงานแม่ จึงรู้ว่าแม่ทะเลาะกับพ่อเลี้ยง แล้วขับรถหายไปตั้งแต่วันที่ผมโทรหาแม่ไม่ติด คราวนี้ผมไปงัดห้องแม่ ผ้ายังตากทิ้งไว้เลย ข้าวในหม้อก็เน่าแล้ว คือ แกไม่ได้ตั้งใจไปแน่ๆ

“ผมก็ไปแจ้งความที่โรงพักเลย ระหว่างรอผมก็เดินไปสูบบุหรี่หลังโรงพัก มันจะมีที่เก็บรถเกิดอุบัติเหตุใช่มั้ย เราก็เฮ้ย นั่นรถแม่เรานี่หว่า รีบวิ่งไปหาแฟนที่นั่งรออยู่ น้ำตาไหลเลยตอนนั้น บอกแฟน รถแม่ รถแม่…

ภาพจากอีจัน

คือตำรวจคนรับแจ้งความคนหายผม เขาก็เข้าเวรวันที่มีคนเจอรถแม่ผมจอดทิ้งไว้ในทุ่งนาพอดีเลยนะ เขาบอกเองว่า เขาลากรถแม่ผมมาเอง ผมก็ถามกลับไปว่า ไม่เอะใจเลยหรอ ผมมาแจ้งความแม่หายไปพร้อมรถกระบะก็บอกทะเบียน มันก็ตรงกัน เขาก็เงียบ เขาบอกว่ากำลังจะติดต่อหาเจ้าของรถว่าเป็นใคร ผมก็ไปเปิดประตูรถดู เขาบอกว่าอย่าจับอะไรมาก ยังไม่ได้เก็บหลักฐาน คือ รถมันจอดในทุ่งนา ในสภาพตะลุยลงไปไกล ไฟหน้ายังติดอยู่ มีรอยคราบเลือดในรถ แล้วมีรอยลากอะไรสักอย่างกลับไปทางถนน

ตำรวจเขาถามผมว่า แม่ไปต่างประเทศ ไปต่างจังหวัดหรือเปล่า ผมก็ถามตำรวจกลับไปว่า เป็นพี่ไปธุระจะเอารถไปจอดแบบนั้นหรือเปล่าล่ะ สรุปผมต้องจ่ายค่าลากรถจากจุดเกิดเหตุมาโรงพักอีก 6,000 บาท (โชว์ใบเสร็จรับเงินให้ดู)

ตั้งแต่วันที่มาหาแม่หลังติดต่อไม่ได้ กะมาแค่สองวัน หลังจากนั้นอยู่ยาวเลย ไม่ได้กลับลพบุรีอีกเลย ก็หางานทำที่นี่เพื่อหาข่าวแม่ มันก็ไม่มีงานอะไร ก็กลับไปเอาอุปกรณ์ที่ลพบุรี มาขายปลาหมึกย่างที่นี่ ขายได้วันละ 80 บาทบ้าง 100 บาทบ้าง ท้อเลย ขายไม่ดีเลย ผมก็ว่าของผมอร่อยแล้วนะ

“ตอนแม่ยังไม่หายไป ผมเพิ่งคบกับแฟนก็เริ่มต้นชีวิต ขายปลาหมึกย่างกันเนอะ อยู่ๆวันนึง แม่โทรมาบอกว่า อยู่ลพบุรีแล้ว บ้านอยู่ตรงไหนกัน คือแกมาตามดูว่า ผมถูกผู้หญิงหลอกมั้ย (หัวเราะ) คือ ฝ่ายหญิงเขาต้องกังวลมากกว่าหรือเปล่าพี่ ว่าผมจะมาหลอกเขา (หัวเราะ) หลังแม่กลับไป แม่โทรมาถามว่า อยากได้รถกะบะมั้ย แม่จะดาวน์ให้ แต่พวกเอ็งไปผ่อนเองนะ จะได้ไม่ต้องลำบากขี่มอเตอร์ไซค์ไปขายของ แต่ผมคิดว่ายังไม่พร้อม เราเพิ่งเริ่มต้น เลยปฏิเสธไป แม่ก็ย้ำว่า ถ้าเอ็งพร้อมก็บอกนะ

“หลังอยู่สุรินทร์เพื่อตามเรื่องแม่ระยะหนึ่ง จากนั้นผมก็เริ่มย้ายไปทำงานที่อื่น เพราะอยู่นี่ก็ไม่มีประโยชน์ งานก็ไม่ค่อยมี ก็ไปทำงานรับจ้างขับรถ พอมีวันหยุดก็มาสุรินทร์เพื่อตามเรื่อง โทรมาถามตำรวจเป็นระยะๆ เขาก็ว่า ยังไม่เจอเบาะแสอะไรเลย ยังนับหนึ่งไม่ได้เลย ไม่รู้จะตามยังไง เราฟังแบบนี้ก็ท้อเลย
.
“เพิ่งฝันถึงแม่ไม่นานนี่เอง เลยกลับมาตามหาที่สุรินทร์อีก อยากรู้ความจริง ถ้าใครทำอะไรแม่ก็อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ คิดถึงแม่มาก บางทีเจอคนแก่ข้างทาง ก็คิดว่าเป็นแม่เราหรือเปล่า (ร้องไห้)…”

ภาพจากอีจัน

ล่าสุด ทีมงานของมูลนิธิกระจกเงา ลงพื้นที่ติดตามคดีนางสุมาลี พบเบาะแสสำคัญ เมื่อตรวจสอบทะเบียนศพนิรนาม พบว่า นางสุมาลี ถูกฆาตกรรมเสียชีวิตที่จังหวัดมหาสารคาม ทิ้งศพไว้ข้างทางตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. 2558 ดีเอ็นเอ ตรงกับ คราบเลือดที่พบในรถกระบะที่จอดทิ้งไว้อีกด้วย