ล่าโจ๋เลือดร้อน รุมกระทืบหนุ่ม คาสะพานเหล็กเชียงใหม่

(30 ก.ย.62) เหตุเกิดบริเวณสะพานเหล็กหรือขัวเหล็ก ถนนเจริญประเทศ ต.ช้างสาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีชายคนหนึ่งถูกทำร้ายร่างกาย อาการสาหัส หลังตำรวจ สภ.เชียงใหม่ได้รับแจ้ง ได้เดินทางไปตรวจสอบ

พบนายคมวุฒิ พิชวงค์ อายุ 33 ปี และนายอนุภาพ อักษรโศภณพันธ์ อายุ 32 ปี นอนสลบไม่ได้สติอยู่กลางสะพาน มีร่องรอยการถูกทุบตีด้วยของแข็ง จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือ แต่นายคมวุฒิ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในที่สุด ส่วนนายอนุภาพ อาการสาหัส

ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ของเทศบาลนครเชียงใหม่ ช่วงเวลา 03.35 น. มีกลุ่มวัยรุ่นนั่งดื่มกันบริเวณสะพานเหล็ก ต่อมานายคมวุฒิและนายอนุภาพ เดินเข้ามาที่วงนานกว่า 30 นาที กระทั่งเวลาประมาณ 04.10 น. ได้มีเหตุทะเลาะวิวาทกัน โดยวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวประมาณ 7-8 คน ได้รุมทำร้ายนายคมวุฒิ และ นายอนุภาพ แต่นายอนุภาพวิ่งหลบหนีเอาตัวรอดออกมาได้ ส่วนนายคมวุฒิถูกรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

โดยในภาพจะเห็นว่ามีวัยรุ่นชาย สวมหมวก หลังทำร้ายนายคมวุฒิรอบแรกเสร็จแล้ว ได้วนกลับมาทำร้ายซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี

ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหามาได้แล้วทั้งหมด 4 ราย จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนถูกรุมทำร้าย ผู้ตายและเพื่อนได้ไปนั่งดื่มในร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้ถนนเลียบทางรถไฟและได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับตำรวจรถไฟ

กระทั่งถูกคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.แม่ปิง อ.เมืองเชียงใหม่ และถูกปล่อยตัวเพราะไม่มีใครเอาเรื่อง หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้ขับรถหาที่ดื่มกันต่อ จนมาพบวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว จึงขอนั่งดื่มกินด้วย จนมีเหตุทะเลาะวิวาทจนทำให้เสียชีวิต ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้าน พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ศิริเดชอนันต์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เผยว่า ขณะนี้จับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 4 คน เป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี และ เป็นคนไทยทั้งหมด ส่วนที่เหลือ ซึ่งมีทั้งผู้ก่อเหตุ และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ มีมากกว่า 20 คน ชุดสืบสวน อยู่ระหว่างการลงพื้นที่เพื่อติดตามจับกุมตัวพวกที่เหลือมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงจะแจ้งข้อกล่าวหาได้กับผู้ที่ก่อเหตุได้ โดยขณะนี้ขอปิดชื่อผู้ต้องหาที่จับกุมไว้ก่อนจนกว่าจะจับกุมตัวได้ทั้งหมด เพราะเกรงว่าจะเสียรูปคดี และผู้ต้องหาที่เหลือจะไหวตัวทันหลบหนีไป

ขณะที่กลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิตเอง ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ประกาศให้ชาวโซเชียลช่วยตามหาวัยรุ่นที่ก่อเหตุด้วยเช่นกัน