ภ.1 นำทีมล่า แก๊งขนยาบ้าข้ามจังหวัด ก่อนรวบยกทีมพร้อมยาบ้าหลายแสนเม็ด

ชุดปฏิบัติการที่ 1 ศอ.ปส.ภ1 ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติด จาก จ.พระนครศรีอยุธยา มาส่งให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ จ.อ่างทอง และ จ.สิงห์บุรี

โดยจะใช้รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโลล่า สีเขียว ป้ายทะเบียน  พระนครศรีอยุธยา เป็นรถนำทางเพื่อเช็คเส้นทางเลี่ยงด่านตรวจของตำรวจ และใช้ รถเก๋งยี่ห้อ ซูซูกิเซียส สีขาว ป้ายทะเบียน กรุงเทพฯ ในการขนยาเสพติด

ตำรวจชุดจับกุมจึงรายงาน ให้ พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบก.ภ.จว.อ่างทอง หัวหน้าชุด ปฏิบัติราชการ บก.สส.ภ.1 ทราบ และได้สั่งการให้ทำการสืบสวนติดตามพฤติการณ์ของบุคคลดังกล่าว เพื่อทำการจับกุม

ต่อมา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.62 ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า
นายบุญมี หรือแจ้ และ นายนฤเบตร์ หรือกบ จะใช้รถยนต์ทั้ง ๒ คันไปขนยาเสพติดจำนวนมากจาก จ.พระนครศรีอยุธยา มาส่งให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ จ.สิงห์บุรี โดยจะออกจากเขตพื้นที่ จ.อ่างทอง ไป จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในช่วงเวลาตั้งแต่ 19.00 -20.00 น. วันนั้น โดยเส้นทางถนนสายเอเชีย

ชุดสืบจึงแบ่งกำลังเป็น 2 ทีม
ทีมที่ 1 นำโดย ร.ต.อ.ภูษิต หนูสาย รอง สวป.สภ.กษไชโย จ.อ่างทอง
ติดตาม รถยนต์ยี่ห้อ ซูซูกิเซียส สีขาว หมายเลขทะเบียน 6 กฬ 6724 กรุงเทพฯ จอดอยู่ บ้านหลังหนึ่งใน ต.ห้วยไผ่ อ.แสวงหา จ.อ่างทอง

ทีมที่ 2 กระจายกำลังอยู่ตามเส้นทางเพื่อสลับกันสะกดรอยติดตาม ตั้งแต่เวลา 17.30 น.

จนกระทั่งเวลา 19.00 น. รถยนต์ยี่ห้อ ซูซูกิเซียส สีขาว ป้ายทะเบียน กรุงเทพฯ ได้ขับออกจากบ้านหลังเป้าหมาย มุ่งหน้าเข้า อ.เมืองอ่างทอง และออกถนนสายเอเชีย ชุดสืบทีม 1 จึงขับติดตาม

ซึ่งพอขับตามมาถึง ถนนสาย โพธิ์ทอง มุ่งหน้าเข้า อ.เมืองอ่างทอง ก็มีรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า โคโลล่า สีเขียว ป้ายทะเบียน พระนครศรีอยุธยา ขับมาและมาต่อท้าย รถยนต์ ซูซูกิเซียส สีขาว
จนมาถึงเขต อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณ หน้าห้างเอฟเอ็นเอาเลท รถยนต์ ซูซูกิเซียส สีขาว ก็จอดริมถนน

ส่วน รถยนต์ โตโยต้า โคโลล่า สีเขียว ขับเลยไปก่อนจะกลับรถมาอยู่ในปั๊มน้ำมันฝั่งตรงข้าม

จากการซุ่มดูพฤติการณ์ พบว่าภายในรถยนต์ โตโยต้า โคโลล่า สีเขียว มีผู้ชายอยู่ขับมาคนเดียว และไม่ลงจากรถ จอดอยู่ประมาณ 30 นาที ก็ขับออกจากปั๊มน้ำมันและ มุ่งหน้าไป จ.อ่างทอง ก่อน รถยนต์ ซูซูกิเซียส สีขาว จะขับตามมา

ตำรวจจึงประสานขอกำลังกับตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง ให้ตั้งด่านเพื่อทำการตรวจค้นรถยนต์เป้าหมายทั้ง 2 คัน ที่บริเวณตู้ตำรวจ บ้านอิฐ ทางเข้า อ.เมือง อ่างทอง

จากการตรวจค้นรถ โตโยต้า โคโลล่า สีเขียว พบว่าผู้ขับขี่คือ นายบุญมี หรือแจ้ แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายภายในรถ
ขณะเดียวกัน รถยนต์ ซูซูกิเซียส สีขาว ที่ขับตามมา กลับไม่ขับเข้าตามเส้นทางเข้า อ.เมืองอ่างทอง ตำรวจจึงได้ขับติดตามไป
จนมาถึง บริเวณคอสะพานข้ามแม่น้ำลพบุรี หมู่ที่ ๔ ต.ม่วงหมู่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ตำรวจได้ขับขึ้นนำและแสดงตัวเป็นตำรวจเพื่อเรียกขอทำการตรวจสอบ
แต่คนขับรถกลับแสดงอาการพิรุธโดยการพยายามเร่งเครื่องหลบหนี

ตำรวจจึงใช้รถยนต์ส่วนตัวปิดกั้นการหลบหนี และเรียกให้คนในรถยนต์ทั้ง 2 รายลงมา ก่อนจะตรวจค้นรถจนพบ
ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ลักษณะกลมแบน ชนิดเม็ดสีแดงและสีเขียวปะปนกัน รวมจำนวนทั้งหมดประมาณ 140,000 เม็ด โดยแบ่งบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงินและสีชมพูแบบมีปากถุงด้านหนึ่งรูดปิดเลื่อนเปิดได้ ถุงละประมาณ 200 เม็ด และห่อในมัด มัดละประมาณ 10 ถุง และรัดด้วยยางเส้น ห่อด้วยกระดาษสา และใส่ถุงพลาสติกสีขาวใสและใส่เป็นแพ็ค แพ็คละประมาณ 3 มัด จะถูกห่อด้วยพลาสติกสีเหลืองและพับท้ายด้วย กระดาษเทียนไขสีเหลืองโดยมีจำนวนทั้งหมด 23 แพ็ค (ประมาณ 64มัด)
โดยผู้ขับขี่คือ นายนฤเบตร์ หรือกบ ส่วนคนที่นั่งมาด้านข้างคนขับ นั้นคือ นายอนุวัตร หรือหมู

ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พร้อมตรวจยึดของกลาง แจ้งข้อกล่าวหา นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี