เยาวชนกับความรุนแรง ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม

พี่บอม รณสิทธิ์ แนะเยาวชนที่ทำร้ายร่างกายผู้อื่น มีปัญหาด้านจิตใจ ควรดูแลอย่างใกล้ชิด แนะครอบครัวคือพื้นฐานสำคัญ

จากกรณีที่มีภาพและวิดีโอของกลุ่มเด็กสาวกลุ่มหนึ่ง รุมทำร้าย เด็กหญิง อายุ 13 ปี เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา

ทำให้เห็นว่าปัญหา "ความรุนแรง" ที่เกิดขึ้นในกลุ่มเยาวชนนั้น นับว่าเป็นปัญหาที่สำคัญของสังคมไทย และในปัจจุบันปัญหาเหล่านี้ยังคงทวีคูณความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือ แต่ปัญหาดังกล่าวก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง

ภาพจากอีจัน

อีจันจึงติดต่อไปยัง พี่บอม รณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ หรือ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ เพื่อพูดคุยและสอบถามถึงวิธีการรักษาเยียวยาจิตใจเด็กถูกทำร้าย

ภาพจากอีจัน

พี่บอม บอกว่า ด้านสภาพจิตใจนั้น รักษายากมาก ควรรักษาให้ถูกวิธี และถ้าปัญหาที่เกิดขึ้นยังไม่ได้รับการแก้ไข ก็จะยิ่งทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นติดอยู่ในจิตใจของผู้โดนกระทำตลอดเวลา ส่วนการแก้ไขนั้นควรเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองทางกฎหมายทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ

ด้านสภาพจิตใจนั้นเรามีเจ้าหน้าที่จากกรมพัฒนาสังคมเข้ามาคอยดูแล และเยียวยาในกรณีที่มีปัญหาแบบนี้ โดยจะมีทีมนักจิตวิทยาและทีมพี่เลี้ยงที่เป็นเจ้าหน้าที่ของบ้านพัก เข้ามาพูดคุยเพื่อประเมินจิตใจผู้เสียหาย เพื่อประเมินอาการให้หมอจิตเวชเข้ามาบำบัดต่อไป

ภาพจากอีจัน

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สิ่งรอบข้าง พ่อแม่ และเพื่อน ต้องหมั่นช่วยกันดูแลสภาพจิตใจผู้เสียหาย ให้อยู่ในสังคมได้อย่างไม่อับอาย และพยายามอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก สื่อจะต้องไม่ประโคมข่าว เพราะข่าวจะปรากฏอยู่ในโลกออนไลน์ จะไม่มีวันที่จะลบหายไป เมื่อวันหนึ่งผู้เสียหายโตขึ้นมา เห็นชื่อตัวเองอยู่ในอินเทอร์เน็ต ก็ต้องรับรู้ว่าตนเคยโดนกระทำแบบนี้มาก่อน นั่นจะเป็นการตอกย้ำ ดังนั้นสื่อควรจะปกปิดทั้งใบหน้า ชื่อจริง ตามกฎหมาย พรบ.คุ้มครองเด็ก

ทั้งนี้ หน่วยงานหลายฝ่ายต้องเข้ามาดูแล เยียวยา ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น ส่วนการรักษาให้หายขาดนั้นขึ้นอยู่กับสภาพพื้นฐานจิตใจของแต่ละคนว่าเข็มแข็งขนาดไหน ซึ่งใช้เวลารักษาประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี ตามกรณี สามารถรักษาให้หายในระยะยาวได้ โดยการนั่งพูดคุย ปรึกษา รวมถึงการกินยา เพื่อปรับระบบประสาทในสมอง ตามความเหมาะสมของการรักษา

ภาพจากอีจัน

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีวันลบเลือนหายไปจากจิตใจได้ ซึ่งเมื่อผู้เสียหายกลับไปเจอเหตุการณ์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน ก็จะมีปฏิกิริยาการตอบสนองกลับแตกต่างจากคนทั่วไป

ดังนั้นจากเหตุการณ์นี้ น้องคนที่เป็นเหยื่อถูกตบ ไม่ใช่ผู้ที่มีปัญหาทางด้านจิตใจอย่างเดียว แต่รวมถึงกลุ่มเพื่อนที่รุมทำร้ายก็มีปัญหาทางด้านจิตใจเหมือนเช่นเดียวกัน เพราะความรุนแรงในเด็กไม่น่ามีมากถึงขนาดนี้ การรุมทำร้ายร่างกาย ต้องมีการคิดไตร่ตรองกันมาก่อน ที่จะรวมตัวกัน เพื่อมาทำร้ายร่างกาย ซึ่งต้องเข้ามาดูแลไม่ใช่เพียงน้องผู้เสียหายคนเดียว ต้องดูแลจิตใจกลุ่มที่ทำร้ายน้องด้วย

ภาพจากอีจัน

รวมถึงควรมีกลไกของทางภาครัฐเข้ามาควบคุม บังคับให้พ่อแม่ดูแลเอาใจใส่ลูกให้มากๆให้ดีขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นสถาบันครอบครัว จึงเป็นพื้นฐานหลักในการอบรมสั่งสอน และชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องให้กับเด็ก แค่ครูที่โรงเรียนไม่พอ เพราะเด็กอยู่กับครูไม่กี่ชั่วโมง แต่อยู่กับพ่อแม่แทบทั้งวัน เพราะฉะนั้นสถาบันครอบครัวจึงสำคัญที่สุด