มีคำถามว่า เงินในบัญชีกว่า 422 ล้าน และเงินที่เพื่อนศิลปินดาราซึ่งมอบให้กับมือ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” กว่า 4 ล้านบาท รวมทั้งหมด จำนวนกว่า 426 ล้าน จะบริหารจัดการเงินจำนวนนี้อย่างไร ให้มีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้
เงินที่ได้รับบริจาคผ่านบัญชีออมทรัพย์และกระแสรายวัน ตอนนี้มียอดเท่าไร ?
ต้องขอชี้แจงแบบนี้นะครับเงินที่เข้ามามีอยู่ 2 ส่วน คือเงินที่ประชาชนบริจาคผ่านบัญชีผมทั้ง 2 บัญชี มีจำนวนเงินทั้งสิ้น 422,496,026 บาท ส่วนเงินของเพื่อนศิลปินดารา รวมถึงเน็ตไอดอลมอบให้ผมมารวมทั้งสิ้น 4,263,684.25 บาท
หวั่นใจ “สรรพากร” เรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ?
ผมได้คุยกับสรรพากรแล้ว เขารับปากจะไม่เก็บภาษีผม เพราะเป็นการรับบริจาคเพียงแค่ผ่านบัญชีผมเท่านั้น เช่นผมรับมา 100 บาท ผมต้องจ่าย 100 บาท แต่ต้องมีเอกสารเป็นหลักฐานว่าผมจ่ายเงินให้ใคร แต่ผมก็อยากได้เป็นหนังสือ ระบุมาแล้วว่าจะไม่เรียกเก็บภาษีจากผม แต่สรรพากรก็ไม่สามารถทำให้ได้ เพราะถ้าออกให้ผมคนหนึ่งก็จะมีคนต่อๆ ไป และออกหนังสือให้แล้วคนอื่นเอาไปทำผิดวัตถุประสงค์แบบนี้ถือว่าทำผิด เขาเลยไม่ออกหนังสือให้ผมเป็นรายลายลักษณ์อักษร แต่ตอนนี้ผมสบายใจแล้วเพราะสรรพากรรับปากไม่เรียกเก็บภาษี
ถ้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมครบ 5 จังหวัดแล้ว เงินที่เหลือจะเอาไปทำอะไร ?
เงินที่เหลือผมจะขอให้ประชาชนออกคิดเห็นว่าควรนำไปทำอะไร เรื่องไหนประชาชนอยากให้ทำมากที่สุด ผมจะทำอันนั้น แต่ผมมีในใจแล้วถ้าเงินเหลือผมจะทำอะไร และจะต้องเป็นประโยชน์กับส่วนรวมมากที่สุด แต่จะไม่เอาเงินไปรวมกับรัฐบาลแน่นอน แต่ถ้าใครอยากจะตรวจสอบผม ผมพร้อมให้ตรวจสอบเพราะผมทำอย่างโปร่งใส
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 62 จนถึงวันนี้ ผมเบิกเงินมาใช้จากบัญชีรวมแล้ว 15 ครั้ง รวมเป็นเงิน 120 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 107,201,000 บาท เหลือ 12,799,000 บาท เงินจำนวนนี้กำลังนำไปช่วยเหลือชาวบ้าน อ.ศรีเมืองใหม่ และ อ.สิริธร และยังเหลืออีก 3 อำเภอ คาดว่าในจังหวัดอุบลราชธานีต้องช่วยให้เสร็จภายในวันที่ 15 ตุลาคม 62 นี้ จากนั้นเราจะเดินทางไปช่วยจังหวัดอื่นๆ เช่น อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด และขอนแก่น ผมยืนยันจะทำทุกอย่างให้จบภายในสิ้นปีนี้และชี้แจงกับสังคมทุกประเด็น