กองปราบจับผู้ใหญ่บ้าน ขายรถกันกระสุนให้แก๊งขนยานรก

ตำรวจกองปราบปรามตามรวบ ผู้ใหญ่บ้าน ขายรถให้แก๊งค้ายา ตรวจสอบ ส่วนส่วนประกอบรถแข็งแรงกันกระสุน

(11 ต.ค.62) ตำรวจกองบังคับการปราบปรามร่วมกันจับกุม นายอุทิน พรพจน์ธนมาศ อายุ 48 ปี ชาว ตำบลเขาคันทรง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ความผิดฐาน “มียุทธภัณฑ์ (รถยนต์นั่งกันกระสุน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ภาพจากอีจัน

การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2559 ตำรวจทางหลวงได้ตั้งจุดสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติด อยู่บริเวณถนนพหลโยธิน บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ได้มีรถยกซึ่งบรรทุกรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน พร 3834 กทม ขับฝ่าด่านตรวจไปอย่างรวดเร็ว ตำรวจจึงได้ทำการไล่ติดตามรถยนต์คันดังกล่าว

ภายหลังพบว่ามี นายแดง (นามสมมติ) มีชื่อเป็นผู้ครอบครอง ตรวจสอบประวัติพบ คดีเกี่ยวกับยาเสพติดเพียบ จึงขยายผลจับกุม

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

คดีนี้ตำรวจ กก.4 บก.ป ได้รับแจ้งจากตำรวจทางหลวงว่า ได้ยึดรถยนต์กระบะสี่ประตู สีบรอนซ์ ยี่ห้อโตโยต้า คันหมายเลขทะเบียน พร 3834 กทม จึงส่งให้ กก.4 บก.ป. ตรวจสอบ ต่อมาเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ป ได้สืบสวนทราบว่า รถยนต์กระบะคันดังกล่าวมีลักษณะพิเศษคือ มีอุปกรณ์ห่อหุ้มป้องกันการกระแทกรอบคัน สามารถป้องกันกระสุนปืนได้ สันนิษฐานว่า จะนำไปใช้ในการขนยาเสพติดทางภาคเหนือ


จากการตรวจสอบเจ้าของเบื้องต้นพบว่า มีประวัติคดียาเสพติดเพียบ จึงสืบหาที่มาของรถยนต์กระบะคันดังกล่าว กระทั่งพบว่า นายแดง (นามสมมุติ) ได้รับซื้อมาจาก นายอุทิน และนายอุทิน ได้รับซื้อรถคันนี้ มาจาก นายดำ (นามสมมุติ) จากการสืบสวนรถยนต์กระบะคันหมายเลขทะเบียนดังกล่าว มีลักษณะแต่งเติมส่วนประกอบที่แข็งแรง เช่น ทำที่ครอบแบตเตอรี่ หม้อน้ำ ส่วนกระจกหน้าและรอบคันจะใช้กระจกใสอะครีลิค หนาประมาณ 4 นิ้ว ดัดแปลงแทนกระจกปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป จึงอนุมัติขอหมายจับผู้ต้องหา รวมทั้งหมด 2 คน ซึ่งหนึ่งในนั้น คือนายอุทิน ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อำเภอศรีราชา มาดำเนินคดีต่อไป

ภาพจากอีจัน

กระทั่ง ตำรวจ กก.4 บก.ป. ได้สืบทราบว่า นายอุทิน ได้หลบหนี ไปอยู่ที่เขตจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดชลบุรี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและวางแผนการจับกุมได้ในที่สุด ภายหลังจับกุม นายอุทิน ได้ให้การรับว่าได้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวมาจากนายดำ (นามสมมุติ) เพราะเห็นว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีกระจกหนากว่ารถยนต์ทั่วไปปกติ จึงซื้อมาในราคา 600,000 บาท เพื่อนำมาใช้ส่วนตัวและงานปราบปราม ยาเสพติดในพื้นที่ ต่อมานายแดง (นามสมมุติ) ได้มาขอซื้อ จึงขายไปในราคาเท่าทุน โดยนายอุทิน ไม่ทราบว่า นายแดง (นามสมมุติ) เคยมีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติดและไม่รู้เรื่องว่า นายแดง จะนำรถยนต์คันดังกล่าวไปก่อเหตุขนยาเสพติดแต่อย่างไร