ผอ.ศูนย์วิจัยฯ ชี้ เสียงเจ็ทสกี มีผลต่อวาฬบรูด้า

ผอ.ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลฯ ชี้ เสียงเจ็ทสกี ส่งผลกระทบต่อบรูด้า เตรียมลงพื้นที่ก่อนประชุมหาทางแก้ไข

ผอ.ศูนย์วิจัยฯ ชี้!!เสียงเจ็ทสกี มีผลต่อบรูด้า ขณะที่ “โสภณ” อธิบดีทช.เตรียมลงพื้นดูบรูด้าหากินด้วยตาตัวเอง หากส่งผลกระทบร้ายแรงเตรียมใช้มาตรา 17 ตามพ.ร.บ.ส่งเสริมการบริการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สั่งระงับการกระทำทันที

ภาพจากอีจัน

ผอ.ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลฯ ชี้ผลกระทบเรื่องเสียงใต้น้ำที่มีผลต่อวาฬ วอนเมื่อเข้าใจแล้ว จะได้ร่วมเป็นเครือข่ายช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกันต่อไป

ภาพจากอีจัน

วานนี้ 16 ตุลาคม 2562 นายสุรศักดิ์ ทองสุกดี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลเเละชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันตก กรมทรัพยากรทางทะเลเเละชายฝั่ง ได้เปิดเผยหลังกรณีดราม่าที่มีแก๊งขับขี่เจ็ทสกี ลงไปชมวาฬ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2562 ฝั่งทะเลอ่าวไทยในเขตจังหวัดเพชรบุรี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

โดยชี้เเจงและสร้างความเข้าใจในเรื่องของเจ็ทสกี 3 ประเด็น คือ

1) เนื่องจากเจ็ทสกี และเรือสปีดโบ๊ท มีท่อไอเสีย อยู่ใต้น้ำ จึงก่อให้เกิดเสียงใต้น้ำได้มากกว่าเรือของชาวประมงที่มีท่อไอเสียอยู่บนผิวน้ำ ดังนั้นทั้งเจ็ทสกีและสปีดโบ๊ทก่อให้เกิดเสียง มีผลกระทบกับพฤติกรรมของวาฬบรูด้า

2) การไปชมวาฬของเจ็ทสกี จะไปเป็นหมู่คณะจำนวนหลายลำ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่เจ็ทสกีเอง เพราะหากไปลำเดียวก็อาจจะเกิดหลงทิศทางในทะเลได้ ดังนั้นการขับเจ็ทสกีไปชมวาฬจึงมักเห็นจำนวนหลายลำ และเสียงจากเจ็ทสกีหลายๆ ลำจะยิ่งดังมากขึ้น มีผลกระทบและรบกวนวาฬบรูด้ามากขึ้น เพราะวาฬสื่อสารกันด้วยเสียง ซึ่งจากการที่เคยใช้สปีดโบ๊ทออกสำรวจวาฬพบว่า ในระยะมากกว่า 500 เมตร ที่เรือเข้าใกล้วาฬ วาฬก็จะดำน้ำหนีไป เพราะเสียงจากท่อไอเสียของเรือสปีดโบ๊ทดังจนไปรบกวนวาฬ

3) อันตรายอีกอย่างหนึ่งของเจ็ทสกีในการไปชมวาฬ คือเมื่อได้พบกับลูกวาฬ ซึ่งมีนิสัยซุกซนขี้เล่น และชอบว่ายเข้าหาเรือ หากผู้ขับขี่เจ็ทสกี เห็นลูกวาฬดำน้ำ แล้วคิดว่าวาฬไปแล้ว แต่วาฬอาจยังไม่ไปไหน หรืออยู่ใต้ท้องเรือ หากสตาร์ทเครื่องยนต์ มีเสียงดังขึ้นมา ลูกวาฬอาจจะตกใจ และว่ายชนกับเจ็ทสกี อาจเป็นเหตุให้เกิดอันตรายได้ทั้งวาฬและคนขี่เจ็ทสกีได้

ภาพจากอีจัน

ทั้งนี้ นายสุรศักดิ์ บอกอีกว่า ทางฝั่งคนขี่เจ็ทสกี ก็ไม่ได้อยากจะไปรบกวนวาฬบรูด้า เเต่เนื่องจากไม่ทราบข้อมูลเรื่องเสียง ที่จะส่งผลกระทบกับพฤติกรรมของวาฬบรูด้า ก็ต้องชี้เเจง สร้างความเข้าใจ เมื่อเข้าใจเเล้ว ก็จะได้เป็นกลุ่มเป็นเครือข่าย ช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมได้ต่อไป

ภาพจากอีจัน

ขณะที่อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เรียกประชุมหน่วยเกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันอาทิตย์นี้แล้ว

โดยจะเรียกได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งภาคธุรกิจและเอกชนในการจัดการท่องเที่ยว เพื่อชมวาฬบรูด้า เพื่อรายงานสถานการณ์วาฬบรูด้าในพื้นที่ และแนวทางการบริหารจัดการ ในกิจกรรมท่องเที่ยวชมวาฬบรูด้าอย่างถูกต้อง ในวันอาทิตย์ที่ 20 ต.ค.2562 โดยในภาคเช้านายโสภณ จะลงเรือเพื่อไปดูพื้นที่หากินของบรูด้าในพื้นที่ด้วยตัวเองก่อนการประชุม

ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อออกมาตรการและระเบียบฯ ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการบริหารการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558 ตามมาตรา 17

มาตรา 17 ในกรณีที่ปรากฏว่าบุคคลใดก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่ง ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายมีอํานาจสั่งให้บุคคลนั้นระงับการกระทํา หรือกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งนั้นเป็นการชั่วคราว ตามความเหมาะสม

เมื่อได้มีคําสั่งตามวรรคหนึ่งแล้ว หากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายเห็นว่าการกระทํา หรือกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งนั้น อยู่ภายใต้ ความรับผิดชอบหรือเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของรัฐหน่วยงานใด ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย แจ้งประสานงานหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบหรือเกี่ยวข้องนั้นโดยมิชักช้าเพื่อดําเนินการแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้นตามอํานาจหน้าที่ต่อไป เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุจําเป็นเร่งด่วนและหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะทําให้ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมีความเสียหายเพิ่มขึ้น หรือไม่มีหน่วยงานของรัฐหน่วยงานใดที่รับผิดชอบ หรือเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว ให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมีอํานาจดําเนินการใด ๆ เพื่อแก้ไข หรือบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในบริเวณดังกล่าว ในการนี้ อธิบดี หรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายอาจกําหนดวิธีการและระยะเวลาดําเนินการเท่าที่จําเป็นเพื่อให้บุคคลตามวรรคหนึ่ง ดําเนินการเพื่อแก้ไขหรือบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในบริเวณนั้นด้วยก็ได้

ภาพจากอีจัน

ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบหรือเกี่ยวข้องหรือกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ดําเนินการเพื่อแก้ไขหรือบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น หรือเมื่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่งได้ระงับสิ้นไปแล้ว ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายพิจารณายกเลิกคําสั่งที่ออก ตามวรรคหนึ่ง