ลืมฮีโร่คนนี้แล้วหรือยัง?
คุณพ่อสมยศ จันทร์ทอง อดีต อปพร. ที่เสี่ยงชีวิตไปช่วยเหตุแก๊สรั่วเมื่อปลายปี 2559 จนตัวเองถูกไฟครอกบาดเจ็บสาหัสต้องใช้ชีวิตอย่างทุกทรมานกับแผลที่ไม่มีวันหาย
เรื่องราวกลับมาเป็นกระแสขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีคนแชร์ชีวิตของพ่อสมยศวอนเข้าช่วยเหลือ เพราะหลังจากเกิดเหตุหลายคนอาจลืมเขาไปแล้ว
วันนี้ 21 ต.ค. 2559 จันได้ติดต่อไปยังครอบครัวของพ่อสมยศ และได้พูดคุยกับ คุณแบงค์ นายธเนศจันทร์ทอง (ลูกชาย) โดยคุณแบงค์เล่าว่า เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2562 คุณพ่อได้ไปเป็น อปพร.ประจำจุดอยู่ที่หมู่บ้าน ในช่วง 7 วันอันตราย
ต่อมาคุณพ่อ รับแจ้งว่าเกิดแก๊สรั่วไหลในห้องแถวของชาวบ้าน โดยคุณพ่อก็ได้ลงพื้นที่ไปกับทีมงานอีก 2 คน โดยกันผู้สูงอายุและเด็กให้ออกมาในที่ปลอดภัย ห้ามเปิดไฟหรือฉนวนที่จะทำให้เกิดประกายไฟ และคุณพ่อก็พยายามที่จะระบายแก๊สออกจากพื้นที่ให้ได้มากที่สุด
แต่จู่ๆเกิดแก๊สระเบิดขึ้น ความรุนแรงของแก๊สระเบิดทำให้ทุกๆ คนกระเด็น ไปคนละทิศละทาง และคลานออกมา ในสภาพที่ไฟลุกท่วมทั้งตัว แต่คุณพ่อยังมีสติคลานออกไปหาแอ่งน้ำและใช้มือบัดให้ไฟที่ตัวดับ ด้วยความเจ็บปวดทุรนทุราย
หลังจากเกิดเหตุ คุณพ่อได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในตัวอำเภอ ก่อนที่จะส่งไปรักษาต่อที่ โรงพยาบาลระยอง โดยเจ้าหน้าที่ อปพร อีก 2 นายได้ส่งรักษาตัวต่อที่รพ.ระยอง ได้รับบาด และเสียเจ็บสาหัสและได้เสียชีวิตลง แต่คุณพ่อสมยศได้อยู่ไนห้อง ICU ต่อมาได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่ โรงพยาบาลศิริราช ผ่านไป 3 สัปดาห์คุณหมอแจ้งว่าคุณพ่อ ต้องสละตา 1 ข้างที่ติดเชื้อ เพื่อรักษาตาอีก 1 ข้าง เพื่อไปให้บอดไปด้วย
ปัจจุบัน คุณพ่อตาบอดไปแล้ว 1 ข้าง และอีกข้างก็มองเห็นไม่ค่อยชัด ต้องรักษาด้วยการหยอดยา ทุกๆ 1 ชั่วโมง อีกทั้งแผลที่ถูกไฟครอกตามตัวก็ต้องล้างและเช็ดทำความสะอาด เพื่อกันติดเชื้อ
โดยคนที่ดูแลตอนนี้คือ คุณแม่ วรรณนา จันทอง คู่ชีวิตของพ่อที่คอยดูแล ทั้งๆที่คุณแม่ก็เป็นโรคความดันสูง เเล้วยังต้องดูแลตนอีก เพราะคุณแบงค์พิการตาบอด จากเชื้อราขึ้นสมอง ทำให้ไม่สามารถ ออกไปทำงานได้
คุณแบงค์บอกจันอีกว่า ด้านร่างกายที่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่แล้ว พ่อต้องมาทุกข์ใจเพราะสังคมโจมตีหลังจากที่มีคนบริจาคเข้ามาช่วยเหลือครอบครัว ว่าครอบครัวไม่รู้จักพอ และเป็นมิจฉาชีพที่มาหลอกเอาเงินคนอื่น ทั้งที่ความจริงไม่ใช่แบบนั้น
คุณแบงค์ทิ้งท้ายกับจันไว้ว่า ตอนนี้ครอบครัวลำบากจริงๆ ไม่ได้เสแสร้งหรือแกล้งทำ เหตุผลที่แม่และตนไม่ออกไปทำงานเพราะต้องดูแลคุณพ่อ ต้องคอยหยอดตาและเช็ดแผลพ่อตลอด หากออกไปก็จะต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
ตอนนี้ที่ทำได้คือเลี้ยงไข่ไก่เพื่อเก็บไข่ส่งตามร้านค้า ซึ่งก็ได้วันละ 10 กว่าฟอง เท่านั้น หากมีงานที่สามารถนั่งทำอยู่ที่บ้านได้ ตนก็อยากทำเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระแม่และครอบครัว และอยากฝากถึงคนที่โจมตีครอบครัวว่า อยากให้ลองมาสัมผัสความทุกทรมานนี้บ้าง ว่ามันคือความจริงไม่ใช่การสร้างภาพ
จันขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับครอบครัวพ่อสมยศด้วยนะคะ
ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก นางฟ้าซาลอน