ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุมนายสฤษดิ์ เคียนตะคุ หรือรอน อายุ 60 ปี ชาวตำบลสุขเกษม อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมา ฐานความผิด “ฆ่าผู้อื่น, พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร”
ภาพจากอีจัน
การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2543 นายศุภกร สินธนานิธิ ซึ่งเป็นคู่เขยกับนายสฤษดิ์ ได้ใช้กลอุบายล่อลวงลูกสาวของนายสฤษดิ์ ไปจากโรงเรียน หายตัวไปและไม่สามารถติดต่อได้
จากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ถัดมา ลูกสาวของนายสฤษดิ์ ได้กลับมาที่บ้าน มีท่าทางซึมเศร้า ไม่ยอมเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ครอบครัวฟัง แต่นายสฤษดิ์ เชื่อว่า ลูกสาวน่าจะถูก นายศุภกรข่มขืนกระทำชำเรา ครอบครัวจึงได้พาลูกสาวไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปักธงชัย ส่วน นายศุภกร ได้หลบหนีไป
ภาพจากอีจัน
ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2543 เวลาประมาณ 18.30 น. ขณะที่นายสฤษดิ์ กำลังเดินผ่านบ้านพักของ นายพิณ ซอพรมราช และ นางเล ซอพรมราช ซึ่งเป็นพ่อตาและแม่ยายของนายสฤษดิ์
นายสฤษดิ์ เห็นนายศุภกรและบุคคลอื่นกำลังยืน จับกลุ่มคุยกันอยู่ภายในบ้านดังกล่าว ในทำนองพูดจาทำให้ลูกสาวของนายสฤษดิ์เสื่อมเสีย ด้วยความโกรธ นายสฤษดิ์ จึงได้กลับไปเอาอาวุธปืนชนิดลูกโม่ ที่บ้าน จากนั้นได้เดินกลับมาที่บ้านของนายพิณและนางเลอีกครั้ง มาถึงนายสฤษดิ์ ได้ใช้อาวุธดังยิงเข้าไปในกลุ่มของนายศุภกร จำนวน 6 นัด กระสุนปืนถูก นายพิณ (พ่อตา) เสียชีวิต และ นางเล (แม่ยาย) ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้น นายสฤษดิ์ได้หลบหนีไป พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาล
ภาพจากอีจัน
ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายสฤษดิ์ ได้หลบหนีมาประกอบอาชีพรับจ้างและพักอาศัยอยู่ที่บริเวณตำบลหนองรี อำเภอบ้านสวน จังหวัดชลบุรี ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2562 ชุดจับกุมได้พบนายสฤษดิ์ อยู่บริเวณถนนทางคู่ขนาน กรุงเทพ-ชลบุรีจึงแสดงตนจับกุม นายสฤษดิ์ รับว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวนี้จริงและไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีตามหมายจับดังกล่าวนี้มาก่อน จึงจับกุมตัวและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปักธงชัย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป แต่จากการซักถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ภาพจากอีจัน