ถุงพลาสติกเกือบ 100 ชิ้น อยู่ในท้องวาฬได้อย่างไร?

เข้าไปได้ยังไง ถุงพลาสติก 85 ชิ้น ในท้อง วาฬ

สุดท้าย …. เจ้าวาฬนำร่องครีบสั้นก็ไม่ได้กลับคืนสู่ทะเล

ภาพจากอีจัน
จัน ได้อ่านเรื่องการช่วยชีวิต เจ้าวาฬนำร่องคลีบสั้นจาก เพจ ThaiWhales ซึ่งเป็นเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่า มนุษย์เป็นผู้กำหนดโลกจริงๆ กำหนดให้โลกเป็นไปต่ออย่างสมบูรณ์ได้ เเละก็สามารถทำลายได้ด้วยเพียง 2 มือ
ภาพจากอีจัน
28 พ.ค.61 ชาวบ้านพบวาฬนำร่องคลีบสั้นสีเทาดำ เพศผู้ ยาว 4.5 เมตร น้ำหนักประมาณ 500 กก. ว่ายเข้ามาในคลองนาทับ ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ทันทีที่ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ทราบเรื่องจึงเร่งส่ง คุณสันติ นิลวัฒน์ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยฯอ่าวไทยตอนล่าง และ เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยสัตวแพทย์ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) นำโดยหมออุ๋ย วัชรา ศากรวิมล สัตวแพทย์ศูนย์วิจัยฯอ่าวไทยตอนกลาง และ หมอเอ๋ และ หมอบิ๊ก จากศูนย์วิจัยฯอันดามัน เข้าช่วยเหลือ จากการสังเกตุเบื้องต้นพบว่า วาฬมีลักษณะผอม การลอยตัวผิดปกติ ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น พบก้อนเนื้อกระจายอยู่ทั่วลำตัว ไม่กินอาหาร มีอาการซึม จึงทำการเก็บเลือด ลมหายใจและก้อนเนื้อบริเวณลำตัว พบว่ามีการติดเชื้อในกระแสเลือด และติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินหายใจ และพบว่าสัตว์มีภาวะขาดน้ำ ทีมจึงช่วยกันรักษา เเต่ในคลองนาทับ เป็นพื้นที่โคลน น้ำขุ่น เชี่ยว ไม่อำนวยต่อการรักษาเจ้าวาฬวันที่ 30 พ.ค. จึงทำการย้ายเจ้าวาฬไปยังหาดบ้านปึก หมู่10 ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้เป็นหลังแนวกั้นคลื่น ทำให้น้ำไม่ลึกมาก คลื่นไม่แรง เหมาะแก่การช่วยเหลือวาฬ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลังจากทำการรักษามาได้ 3 วัน 31 พ.ค. เจ้าวาฬอาการดีขึ้น ลมหายใจกลิ่นดีขึ้น เเต่ยังไม่สามารถว่ายน้ำได้เอง
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
เเต่วันที่ 1 มิ.ย. 61 เจ้าวาฬมีอาการดิ้น สำรอกถุงพลาสติกออกมา 1 ชิ้น มีกลิ่นเหม็นเน่า เเละเกิดอาการชักเกร็งเเรงขึ้น ก่อนจะสำรองถุงพลาสติกออกมาอีก 4 ชิ้น ทำให้ทุกคนในเหตุการณ์เริ่มจะสามารถคาดเดาถึงสาเหตุการป่วยของเจ้าวาฬได้ เวลาล่วงมายันช่วงบ่ายแก่ๆ ฝนตกลมเเรง เจ้าวาฬยังมีอาการชักเกร็งเเรงขึ้น เจ้าหน้าที่ทุกคนเเช่น้ำดูเเลเจ้าวาฬอย่างใกล้ชิด เเต่เวลาผ่านไปไม่นาน เจ้าวาฬหยุดดิ้น เเละเเน่นิ่ง หายใจโรยริน หมอพยายามกระตุ้นให้วาฬหายใจ เเต่ชีพจรของเจ้าวาฬ ก็ค่อยๆอ่อนลงเรื่อยๆ จนหยุดหายใจในที่สุด หมอบิ๊กเเละคุณสันติ จึงตัดสินใจปั๊มหัวใจโดยการใช้ตัวกระเเทก เเต่ก็ไม่เป็นผล เจ้าวาฬไม่กลับมาหายใจอีกเเล้ว
ภาพจากอีจัน
ทุกคนตัดสินใจปลดเชือกวาฬและพยุงเข้ามาในที่ตื้นขึ้นเพื่อช่วยยื้อชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่สุดท้ายเมื่อสัญญาณชีพทั้งหลายดับลง วาฬไม่หายใจ วาฬหัวใจไม่เต้น วาฬไม่ตอบสนองต่อการดึงในปาก วาฬม่านตาเบิกโพลง สัญญาณทั้งหมดนี้ทำให้ทุกคนต้องยอมปล่อยมือ และให้เขาไปอย่างสงบ หลังจากนาทีฉุกเฉินที่วุ่นวาย บรรยาศเงียบนิ่งลง มือและพลังที่คอยช่วยยื้อชีวิตได้หมดแรงลง ท่ามกลางใบหน้าที่เหนื่อยล้า อ่อนแรง เจ้าหน้าที่หลายคนแอบมีน้ำตาไหลปนมากับสายฝนที่กระหน่ำ 
ภาพจากอีจัน
ในเย็นวันนั้นเจ้าหน้าที่ย้ายซากเจ้าวาฬด้วยรถเข็นมาผ่าชันสูตรที่ศูนย์วิจัยอ่าวไทยตอนล่าง พบว่าอวัยวะหลายอย่างไม่ปกติ มีพยาธิในหลายอวัยวะ เเละที่ทำให้ทุกคนสลดใจมากที่สุด คือพบพลาสติก ติดแน่นตั้งแต่หลอดอาหารจนสุดกระเพาะ น้ำหนัก 8 กิโลกรัมนับเป็นชิ้นทั้งหมด 85 ชิ้น !!! ถุงพลาสติก 85 ชิ้น เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า การตายของเจ้าวาฬเกิดจากการกระทำของมนุษย์
ภาพจากอีจัน
เรื่องนี้น่าจะสามารถเตือนใจให้หลายคนฉุกคิดสักนิด พฤติกรรมเล็กน้อยที่มนุษย์ละเลย (ทิ้งขยะไม่ลงถัง) มันสามารถทำลายธรรมชาติได้อย่างง่ายดาย อย่าปล่อยให้ เจ้าวาฬตายไปอย่างไร้ประโยชน์
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ขอบคุณเรื่องราวเเละภาสุดสลดนี้จาก เพจ ThaiWhales

ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำหน้าที่ด้วยหัวสจใจอย่างเต็มที่