ผัวใจเหี้ยม เผานั่งยางอดีตเมีย

พบศพสาวใหญ่นักธุรกิจขายตรงและขายประกัน ถูกฆ่าเผานั่งยางกลางป่าพรุเหลือเพียงเศษกระดูกหลังหายตัวไป 10 วัน สงสัยอดีตสามีเป็นคนลงมือ เนื่องจากหลังเกิดเหตุหายไปพร้อมรถเบนซ์ ตำรวจเร่งหาตัว พบศพสาวใหญ่นักธุรกิจขายตรงและขายประกัน ถูกฆ่าเผานั่งยางกลางป่าพรุเหลือเพียงเศษกระดูกหลังหายตัวไป 10 วัน สงสัยอดีตสามีเป็นคนลงมือ เนื่องจากหลังเกิดเหตุหายไปพร้อมรถเบนซ์ ตำรวจเร่งหาตัว 

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 61 ร.ต.อ.เฉลิมชัย เต็มพร้อม รอง สวส.สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพถูกเผานั่งยางบริเวณป่าพรุและทุ่งนาร้าง อยู่ห่างจากถนนเลียบคลองระบายน้ำร.5 เข้าไปประมาณ 10 เมตร พื้นที่บ้านท่านางหอม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่เกิดเหตุ พบมีร่องรอยของการเผาร่างมนุษย์กับยางรถจักรยานยนต์ สภาพที่เหลือ มีเพียงกองเถ้าถ่านพร้อมกับเศษลวดยางรถจักรยานยนต์ และพบแหวนเพชรอยู่ในกองเถ้าถ่าน 1 วง จากนั้น เจ้าหน้าที่กระจายกำลังตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบเศษกระดูกกะโหลกศรีษะที่ถูกทุบจนเป็นชิ้นเล็กๆ และเศษกระดูกส่วนอื่นๆ ของร่างกายที่แตกละเอียด จนไม่สามารถนำมาต่อเป็นรูปร่างได้ รวมทั้งมีฟันปลอมที่ตกอยู่ในพงหญ้า โดยคาดว่าศพถูกเผาจนเนื้อและกระดูกไหม้ไปกับกองไฟเกือบทั้งหมด และยังมีการนำเศษกระดูกที่เหลือไปทุบให้แตกละเอียดและกวาดทิ้งในพงหญ้าบริเวณรอบเพื่อทำลายหลักฐานทั้งหมดไม่ให้สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นใคร และในบริเวณเดียวกันยังพบยางรถจักรยานยนต์ที่ยังไม่ได้เผาอีก 2 เส้น

ในวันเดียวกัน นางปวีณา ขุนทรงอักษร อายุ 58 ปี พร้อมญาติได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุเนื่องจาก น.ส.ภิญญดา แป้นจันทร์ อายุ 48 ปี หรืออ้อย น้องสาวได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสงขลา จึงได้เดินทางมาตรวจสอบ และทันทีที่เห็นแหวนเพชร และฟันปลอมก็ยืนยันว่า เป็นแหวนเพชร ของ น.ส.ภิญญดา อย่างแน่นอน

จากการสอบสวนญาติทราบว่า น.ส.ภิญญดา เป็นนักธุรกิจขายตรงและขายประกันหน้าตาดีและมีฐานะ ได้หายออกไปจากบ้านตั้งแต่คืนวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมกับรถเบนซ์สีดำ โดยญาติจำเลขทะเบียนได้เพียง ตัวเลข 333 ตำรวจสืบสวนจึงได้ไปตรวจสอบ บ้านของ น.ส.ภิญญดา ซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้เสียชีวิตที่ถูกนำมาเผานั่งยาง ซึ่งภายในบ้านพักเลขที่ 418/7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ตำรวจได้ตรวจพบกองเลือด ซึ่งคาดว่า บ้านหลังนี้น่าจะเป็นที่ที่ น.ส.ภิญญดา ถูกฆ่าตาย ก่อนนำร่างไปเผานั่งยาง ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน9 ได้เข้าเก็บหลักฐาน และได้กันเป็นเขตหวงห้ามเพื่อป้องกันการทำลายหลักฐาน

หลังเกิดเหตุทาง พล.ต.ต.ปรีดา เปี่ยมวารี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.สงขลา ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุและควบคุมสั่งการสืบสวนทางคดี ซึ่งเบื้องต้นจากการสอบสวนพยานแวดล้อมพบตัวผู้ต้องสงสัยที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่า น.ส.ภิญญดา คือ นายกฤษฎา ไหมขาว หรือโรจน์ อดีตสามีที่ได้อย่าร้างกันไปแล้ว แต่ได้กลับมาอยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันฉันผัวเมีย รวมถึงในคืนเกิดเหตุชาวบ้านได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกัน กระทั้งหายตัวไปทั้งคู่ พร้อมกับรถเบนซ์ของผู้ตาย ซึ่งตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวอดีตสามีมาทำการสอบสวน

ส่วน ชิ้นส่วนกระดูก ที่พบในที่เกิดเหตุ ส่งให้แพทย์ฝ่ายนิติเวชน์โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ตรวจพิสูจน์เพื่อยืนยันเอกลักษณ์บุคคลว่าเป็นศพของ น.ส.ภิญญดา จริงหรือไม่ซึ่งต้องใช้เวลาราว 1 สัปดาห์ จากนั้นก็จะนำไปสู่ขั้นตอนของการออกหมายจับผู้ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอดีตสามีเก่า โดยตำรวจได้รวบรวมข้อมูลไว้พร้อมหมดแล้ว ทั้งนี้การติดตามตัวอดีตสามีเก่า ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยทางชุดสืบสวนตำรวจภูธรจ.สงขลา นำโดย พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้ลงพื้นที่หาเบาะแส โดยเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา มีรายงานว่า ตำรวจเกือบได้ตัวแล้ว แต่ผู้ต้องสงสัยไหวตัวทัน โดยหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปก่อนที่ตำรวจจะถึงตัว

มีรายงานจากชุดสืบสวนถึงสาเหตุของการฆ่าว่า แม้ว่าทั้งผู้ตายและอดีตสามีจะเลิกรากันไปแล้ว แต่พักหลังสามีได้กลับมาอยู่ที่บ้านหลังเดียวกัน ในวันเกิดเหตุคืนวันที่ 23 พฤษภาคม ได้มีปากเสียงกันเรื่องที่อดีตสามีขอเงินผู้ตายใช้เพียงไม่กี่ร้อยบาทแต่อาจจะทำให้ผู้ตายอารมณ์เสียหรือหงุดหงิดจึงมีปากเสียงกันและบานปลายถึงขั้นฆ่ากันตาย ส่วนวิธีการฆ่ายังไม่สามารถระบุได้ก่อนที่จะนำศพมาเผาทำลายหลักฐานและหนีไปพร้อมกับรถเบนซ์ขณะนี้ผลการตรวจชันสูตรศพออกมายืนยันแล้วว่า ศพดังกล่าวเป็นศพของ น.ส.ภิญญดา จริง และออกหมายจับ นายกฤษฎา ไหมขาว เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการตามจับกุม