แม่มณีโผล่โพสต์เฟซบุ๊ก!

ผลุบๆโผล่ๆ! แม่มณีเปิดเฟซบุ๊กโพสต์ไม่ได้หายไปไหน แต่ถูกสั่งเก็บ ก่อนจะปิดหนีไปอีกรอบ ด้าน ปอศ.ขอศาลออกหมายจับแล้ว

กำลังเป็นที่น่าสนใจสำหรับคดีแชร์แม่มณี ที่วงแตกจนผู้เสียหายกว่า 200 คน หอบหลักฐานแห่ร้อง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งทุกคนต่างก็ตั้งคำถาม แม่มณีหายไปไหน เฟซบุ๊กส่วนตัวถูกปิด เฟซบุ๊กธุรกิจถูกปิด ส่วนเบอร์โทรศัพท์และไลน์ก็ยังติดต่อไม่ได้

ภาพจากอีจัน

แต่ล่าสุดเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค. 62) เฟซบุ๊กส่วนตัวของ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือ เดียร์ แม่มณี ที่ใช้ชื่อว่า Wanthanee Tippaveth ได้กลับมาเปิดอีกครั้ง พร้อมกับโพสต์ว่า เดียร์ไม่ได้หายไปไหน แต่กำลังดำเนินการอยู่ พร้อมทั้งยังบอกอีกด้วยว่า ตนเองถูกสั่งเก็บ และถูกใส่ข่าวโจมตี

“เดียร์ไม่ได้ไปไหน เดียร์ยังอยู่กำลังดำเนินการตลอด แต่โดนแฮ๊กเฟส เพิ่งกู้ได้ โดนบีบทุกทาง ทั้งที่มีคนตามเก็บหลายอย่าง ทางเราก็รอทางทนายทีมใหม่เราดำเนินการ เราไม่ได้ทิ้งใคร แค่เราไม่มีสิทธิ์พูด

เดียร์ไม่เคยทิ้งใคร เดียไม่ได้เป็นในข่าว เดียโดนกระทำทุกอย่าง ทั้งโดนใส่ข่าว โดนจู่โจม โดนสั่งเก็บ โดนตามปิดปาก บางคนก็อยากตามจับส่งตำรวจทั้งๆที่หมายจับยังไม่ออก พร้อมสู้คดี เดียไม่เคยคิดเลวกับใคร ทีมทนายเดียทำงานเหมือนเดิม”

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

แต่เช้าวันนี้ (29 ต.ค. 62) กลับพบว่าเฟซบุ๊กดังกล่าวกลับถูกปิดไปอีกครั้ง แต่ก็มีเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ Wanthanee Tippaveth โผล่ขึ้นมาใหม่ โดยใช้รูปของเดียร์ตั้งเป็นโปรไฟล์ พร้อมระบุตรงช่องแนะนำตัวว่า “อย่าแฮ็กเฟสกู กูไม่เคยคิดจะหนี” ซึ่งไม่ยืนยันว่าเป็นเดียร์ แม่มณีหรือไม่ เหล่าผู้เสียหายคงต้องรอติดตามกันต่อไปว่าแม่มณีจะโผล่กลับมาชี้แจงอะไรอีกหรือไม่ เพราะล่าสุด ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับแม่มณีแล้ว

ภาพจากอีจัน

โดยพล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ท.ถิรภัทร ภัททิยธนสาร รองผกก.5 บก.ปอศ. เดินทางไปที่ศาลอาญา เพื่อขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือเดียร์ แม่มณี และ นายเมธี ชิณภา แฟนหนุ่ม

เบื้องต้นศาลได้พิเคราะห์ตามพยานหลักฐานก่อนเห็นควรออกหมายจับ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือ เดียร์ แม่มณี และนายเมธี ชิณภา แฟนหนุ่ม ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1623-1624 ลงวันที่ 29 ต.ค. ในฐานความผิด 3 ข้อหา ประกอบไปด้วย ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันกู้ยืมอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน