3 พ.ย. 62 นางน้อย (นามสมมติ) ชาวตำบลดงพลอง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ได้พา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ลูกสาว เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.สตึก หลัง น.ส.เอ (นามสมมติ) ถูกชายอายุประมาณ 45 – 50 ปี ผิวดำ-แดงผมเกรียน รูปร่างท่วมสูงประมาณ 170 เซนติเมตร แต่งตัวภูมิฐาน ทำทีเหมือนเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตามประกบแล้วปาดหน้าขณะที่ลูกสาวขี่รถจักรยานยนต์ กลับบ้านตามลำพัง แล้วบังคับพาไปกระทำชำเราในโกดังร้างข้างทางตอนกลางวันแสกๆ
ภาพจากอีจัน
โดย ผู้เสียหาย เล่าว่า เวลาประมาณ 11.00 น. ของเมื่อวานนี้ (2 พ.ย. 62) ตนขี่รถจักรยานยนต์ไปร่วมกิจกรรมเดินพาเพรดงานแข่งเรือยาวที่ อ.สตึก หลังเสร็จงานก็ขี่รถไปส่งเพื่อนที่บ้าน จากนั้นก็ขี่รถกลับบ้านที่บ้านป่าหนาม ต.ดงพลอง อ.แคนดง พอมาถึงจุดเกิดเหตุบริเวณริมถนนสายสตึก-แคนดง ระหว่างบ้านตลาด ต.นิคม –บ้านปอแดง ต.หัวฝาย ก็มีรถเก๋งคันสีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขับตามประกบแล้วปาดหน้า เพื่อให้ตนเองจอดรถ จากนั้นได้มีชายรูปร่างสันทัด ตัดผมเกรียน เดินลงมาจากรถแล้วมาขอดูใบขับขี่ พร้อมกับบอกกับตนเองว่า ทำไมไม่ใส่หมวกกันน็อก ไม่รู้เหรอว่าผิดตามกฎหมาย ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่รู้ว่าชายคนดังกล่าวเป็นตำรวจจริงหรือไม่ แต่ด้วยน้ำเสียงที่ดุดันและการแต่งกายตนก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นตำรวจ
ภาพจากอีจัน
จากนั้นชายคนดังกล่าวก็บังคับให้ตนเองขึ้นรถโดยบอกว่าจะพาไปสถานีตำรวจ พร้อมทั้งยึดกุญแจรถจักรยานยนต์เอาไว้ แต่พอตนขึ้นรถเก๋งไปด้วย ชายคนดังกล่าวกลับถามว่ามียาเสพติดหรือไม่ ตนก็ยืนยันว่าไม่มีเพราะไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ก่อนที่ต่อมาชายคนดังกล่าวก็พาตนเข้าไปในโกดังร้างข้างทางบอกจะขอตรวจค้นตัว หากไม่มียาเสพติดจะปล่อยตัวไป แต่พอเข้าไปในโกดังร้างชายคนดังกล่าวกลับใช้มือจับหน้าอก และใช้อวัยวะเพศสอดใส่ของตนเอง พร้อมกับขู่ว่าห้ามขัดขืนและห้ามนำเรื่องไปบอกใครไม่งั้นจะยัดข้อหายาเสพติด ด้วยความกลัวว่าจะถูกทำร้ายหรือถูกฆ่าทิ้งจึงไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ร้องไห้
ผู้เสียหาย บอกอีกว่า ระหว่างที่ชายคนดังกล่าวกำลังลงมือกระทำชำเราตนมีชาวบ้านขับรถไถเข้ามาบริเวณโกดังพอดี คนร้ายจึงบอกให้ตนเองรีบใส่เสื้อผ้า ก่อนจะขับรถเก๋งไปส่งตนที่จุดเดิมที่จอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้
ภาพจากอีจัน
ด้านแม่ของผู้เสียหาย เล่าทั้งน้ำตาว่า รู้สึกตกใจและเสียใจมากที่ลูกสาวมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ไม่คิดว่าคนร้ายจะกล้าก่อเหตุตอนกลางวันแสกๆ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย หัวอกคนเป็นแม่รู้สึกเจ็บปวดมาก ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ทั้งอยากฝากเตือนวัยรุ่น หญิงสาว ว่าให้ระมัดระวังตัวหากเป็นไปได้อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว
ภาพจากอีจัน
เบื้องต้น ตำรวจได้สอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อนำข้อมูลเบาะแสไปติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะถือเป็นภัยต่อสังคม ซึ่งขณะนี้ก็ได้กระจายกำลังออกติดตามรถต้องสงสัยคันดังกล่าวแล้ว