3 พ.ย.62 ภารกิจค้นหา "ยายบุญรอด หงอนทอง" ในป่าสลักพระวันที่ 10 ยังไม่พบ
การค้นหาวันนี้ใช้เวลา 11 ชั่วโมง ท่ามกลางอุปสรรคทั้ง ฝนตกหนักในพื้นที่ป่าสลักพระ และทีมค้นหายังต้องคอยหลบอันตรายจากช้างป่าตลอดเส้นทาง
เพราะลักษณะของป่าส่วนใหญ่เป็นป่ารกทึบหรือป่าดงดิบ
อ่านข่าวเพิ่มเติม |
ทีมค้นหาเข้าไปในป่าตั้งเเต่เช้า โดยขับรถวิบากเข้าไปประมาณ 30 กิโลเมตร และต้องเดินเท้าขึ้นเขาลงเขาต่อเป็นระยะทางไปกลับไม่ต่ำ 20 กิโลเมตร เราเข้าไปค้นหาในจุดที่ชาวบ้านเรียกว่าหนองตาพร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นป่าไผ่
เนื่องจากเมื่อวานซืนพบรอยเท้าที่สงสัยว่าอาจเป็นรอยเท้ายายบุญรอด
แต่วันนี้เราเข้าไปไม่พบรอยเท้านั้นแล้ว แต่กลับเป็นรอยเท้าช้างป่าแทน
เเต่ขณะเดินกลับทีมค้นบางคนเริ่มอ่อนแรง รวมถึงทีมอีจันด้วยก็มีอาการเหนื่อยไปตามๆกัน
เดินเท้ามาถึงที่จอดรถวิบาก ฟ้าก็เริ่มมืดลง ยิ่งตอนขับรถลงจากเขาฟ้ามืดสนิทมองทางยากมาก
ที่สำคัญต้องคอยระวังช้างป่า เพราะเป็นช่วงเวลาช้างออกหากินพอดี
ได้ยินเสียงช้างร้องที ก็ระเเวงกันที
บางช่วงเราต้องดับเครื่องและหาที่หลบตามกอไผ่หลายครั้ง บางครั้งพรานป่าต้องจุดประทัดไล่ช้างป่าเพื่อให้ช้างป่าไม่กล้าเข้าใกล้เรา
คนในทีมต้องจุดธูปบอกเจ้าป่าเจ้าเขาและช้างป่าว่า "ขอให้เปิดทางให้เรา เรามาตามหาคนหาย ไม่ได้เข้ามาเพื่อทำร้ายใคร"
ตอนนั้นไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เสียงช้างที่ดังสนั่นป่าก็เงียบไปทันที (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล)
ตอนนี้อีจันและทีมค้นหา 40 ชีวิตกลับออกจากป่าอย่างปลอดภัยทุกคน
พรุ่งนี้ทีมค้นหาจะกลับเข้าไปอีกครั้ง และจะพักค้างคืนในป่าเพื่อเริ่มภารกิจในวันถัดไปตั้งเเต่ฟ้าเปิด
เพราะหลายคนเริ่มกังวล เเละเป็นห่วงยายบุญรอด เนื่องจากเวลาผ่านไป 10 วันเเล้ว ที่ยายอยู่ในป่า ที่มีสัตว์ป่าตามธรรมชาติ
ขอให้ยายปลอดภัยนะ