รวบหนุ่ม 37 หนีคดี 17 ปี ปมควักมีดแทงอริ แย่งสาวเสิร์ฟ

ตำรวจกองปราบรวบหนุ่มวัย 37 ควักมีดแทงอริคาร้านคาราโอเกะ ปมแย่งสาวเสิร์ฟ หลังหนีคดีกว่า 17 ปี

ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเจรวิชญ์ พันธ์ขาว หรืออู๊ด อายุ 37 ปี ชาว ตำบลรมณีย์ อำเภอกะปง จังหวัดพังงา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ 112/2546 ลงวันที่ 24 มกราคม 2546 ในฐานความผิด “พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ซึ่งหลบหนีคดีมากว่า 17 ปี

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2546 เวลาประมาณ 21.00 น. ขณะที่ นายสามารถ ธรรมนิยม อายุ 42 ปี ชาว ตำบลพนม อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี กำลังนั่งกินเหล้ากับเพื่อนอยู่ที่ ร้านน้องเอ๋คาราโอเกะ ใน ตำบลพนม อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นพนักงานเสิร์ฟของร้าน มานั่งร่วมโต๊ะด้วย

จากนั้น นายเจรวิชญ์ และเพื่อนอีก 3 คน พากันมาเที่ยวที่ร้านนี้ โดยนั่งติดกับโต๊ะของ นายสามารถ

เวลาผ่านไป กระทั่ง 23.00 น. นายสามารถ และ นายเจรวิชญ์ เกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน เรื่องแย่งเด็กเสิร์ฟ นายเจรวิชญ์ ก็เลยเรียกเช็คบิล เพื่อที่จะกลับ

แต่ตอนที่ นายเจรวิชญ์ และเพื่อน กำลังเดินออกจากร้าน จู่ๆ ก็ตัดสินใจเดินกลับมาหา นายสามารถ จากทางด้านหลัง แล้วควักมีดพับ ยาวประมาณ 10 ซม. แทงเข้าที่บ่าขวาของ นายสามารถ 2 ครั้ง ทำให้ นายสามารถ บาดเจ็บสาหัส

จากนั้น นายเจรวิชญ์ ก็วิ่งหลบหนีไป ส่วนเพื่อนของ นายสามารถ ก็รีบนำตัว นายสามารถ ส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพนม
ส่วนเรื่องคดีความ พนักงานสอบสวน สภ.พนม ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาล

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

จากการสืบสวนติดตาม นายเจรวิชญ์ ทราบว่า นายเจรวิชญ์ หลบหนีมารับจ้างและพักอยู่ที่ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบติดตามจับกุมตัว

ต่อมา เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 เวลาประมาณ 23.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบ นายเจรวิชญ์ ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านสรัลพร ซอยเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ 32 แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กทม.

เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงหมายจับให้ นายเจรวิชญ์ ดู และอ่านจนเข้าใจดีแล้ว นายเจรวิชญ์ฯ รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีตามหมายจับดังกล่าวนี้มาก่อน

เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พนม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป