พญาเสือ แถลงจับขบวนการค้าสัตว์ เหิมหนักลักลอบขนขึ้นรถทัวร์

จับขบวนการลักลอบค้าสัตว์ ซุกในรถทัวร์จากนราธิวาสส่งหมอชิต

หลังจากที่ชุดพญาเสือ สามารถจับกุมขบวนการลักลอบค้าสัตว์ขณะกำลังขนส่งผ่านทางรถโดยสารประจำทาง สายสุไหงโกลก – หมอชิต เมื่อ 04.00 น. ของวันนี้ 6 พ.ย. 62

ที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี จ.เพชรบุรี นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูรณ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้แถลงผลการจับกุม โดยระบุว่า จากการเฝ้าติดตามพฤติกรรมขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าออนไลน์ ทราบข้อมูลว่า จะมีการขนส่งสัตว์ป่าล็อตใหญ่ ต้นทางจากนราธิวาส ปลายทางหมอชิตโดยขนส่งผ่านทางรถโดยสารประจำทาง สายสุไหงโกลก – หมอชิต ในวันที่ 5 พ.ย. 62 ชุดพญาเสือจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดักตรวจค้นรถคันดังกล่าวที่จะผ่าน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เวลา 04.00 น. ของเช้า วันนี้ 

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

จากการตรวจค้น เบื้องต้นสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 3 คน ซึ่งเป็นพ่อค้าสัตว์ป่าที่สั่งสัตว์ป่ามาจากภาคใต้ และ 1 ใน 3 เป็นผู้ค้าส่งออกไปต่างประเทศด้วย

สำหรับของกลางที่ตรวจจับได้คือ

1. นกกางเขนดง จำนวน4 ตัว
2. นกกระตั้วโมลัคกันจำนวน 1 ตัว
3. นกกระตั้วขาว จำนวน 2 ตัว
4. นกโนรีแดง จำนวน 37 ตัว
5. ซากนกโนรีแดว 3 ตัว
6. นกโนรีแซตเตอริ่ง จำนวน 10 ตัว

และอุปกรณ์การกระทำผิด ดังนี้

1. กรงไม้จำนวน 1 กรง
2. กรงลวดตาข่าย จำนวน 1 กรง
3. ตะกร้าพลาสติกสีขาว จำนน 2 ตะกร้า
4. ตะกร้าพลาสติกสีดำ จำนน 4 ตะกร้า

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
จากการสอบถาม ผู้กระทำผิดอ้างว่าได้รับจ้างขนมาจาก จังหวัดนราธิวาส เอาไปส่งที่สายใต้ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวเด็กรถไว้ เพื่อนำไปขยายผลจับกุม ที่ หมอชิตใหม่สายใต้ ขณะที่ นางสาวเนตรนภา งามเนตร จนท.หน่วยพญาเสือ และ หน.วนอุทยานเขานางพันธุรัต เผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับทราบข้อมูลมาว่าจะมีการขนสัตว์ป่าล็อตใหญ่ เพื่อมาขายต่อรวมถึงกระจายไปยัง ส่วนต่างๆของประเทศไทย ซึ่งจากการสืบสวนหาข้อมูลและขยายผลจากการจับกุมครั้งก่อนทำให้ทราบว่าขบวนการดังกล่าวเป็นขบวนการที่ใหญ่มากพอสมควร คือกระบวนการนี้จะใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการลำเลียงสัตว์ป่า โดยผ่านมาทางชายแดนมาเลเซีย เข้ามายังประเทศไทยจากนั้นก็นำออกจากประเทศไทย ทางช่องทางธรรมชาติเพื่อ ส่งไปประเทศต้นทางที่ทำการสั่งซื้อ อาทิ จีน ไต้หวัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ด้าน นายอรรถพล เภาอ่อน หัวหน้าวนอุทยานชะอำ เผยว่า จากการศึกษาสวนเชิงลึกและการให้ถ้อยคำของผู้ต้องหา ปรากฏชัดเจนว่าเป็นการนำเข้ามาจากต่างประเทศพร้อมกับใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านเพื่อส่งออกสัตว์ป่าไปสู่ประเทศที่ 3 โดยผู้ถูกจับกุมกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ดังนี้ 1 มาตรา 19 ฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. มาตรา 20 ฐานค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 3. มาตรา 23 ภายใต้บังคับมาตรา 24 ฐานนำเข้าหรือส่งออกซึ่งสัตว์ป่าหรือซากสัตป่าชนิดที่รัฐมนตรี ประกาศกำหนด หรือนำผ่านซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าดังกล่าว โดยไม่ได้รับ อนุญาตจากอธิบดี 4. มาตรา 24 ฐานนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่าน ซึ่งสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่าชนิดที่ต้องมีใบอนุญาตหรือ ใบรับรองให้นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่าน ตามความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการค้าสัตว์ป่าและซาก ของสัตว์ป่า โดยไม่มีใบอนุญาตหรือใบรับรองจากอธิบดี 5. มาตรา 55 ฐานช่วยซ่อนเร่น ช่วยจำหน่ย ช่วยพาเอาไปเสียซื้อรับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่ง สัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่รอันได้มาโดยการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติ ซึ่งมีบทลงโทษ ดังนี้ มาตรา 47 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 16 มาตรา 19 มาตรา 20 วรรคสองหนึ่งหรือมาตรา 23 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 48 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 18 มาตรา 23 วรรคสอง หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 29 ต้องระวางโทษจำคุกไม่ เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 55 ต้องระวาโทษจำคุกไม่กินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกการจับกุมก่อนจะส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี