สาวร้อง! ถูกจับลิขสิทธิ์ หลังสานตระกร้าหาเงิน เลี้ยงลูกกล้ามเนื้ออ่อนแรง

สาวพรานกระต่าย สานตะกร้าพลาสติกขาย หารายได้เลี้ยงลูกป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง โดนล่อซื้อทางอินเตอร์เน็ตให้ทำลายการ์ตูนโดราเอม่อน พร้อมนัดให้นำของไป แต่ถูกอ้างละเมิดลิขสิทธิ์ เรียกรับเงินแทนการดำเนินคดี 30,000 บาท

หลังจากที่มีข่าวการล่อซื้อและจับลิขสิทธิ์ที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา จนกลายเป็นข่าวใหญ่เป็นที่สนใจของประชาชนเป็นอย่างมากนั้น ต่อมาทางปลัดกระทรวงยุติธรรมได้ให้สำนักงานยุติธรรมแต่ละจังหวัดตรวจสอบว่ามีประชาชนถูกล่อซื้อและจับลิขสิทธิ์แบบนี้ที่ไหนบ้าง

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอให้ช่วย กรณีถูกจับเรื่องลิขสิทธิ์ จากนางสาวคัคนางค์ เกตุวงษ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146/1 หมู่ 5 ต.ถ้ำกระต่ายทอง อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ว่าตนเองมีอาชีพสานตะกร้าจากเส้นใยพลาสติกขายตามตลาดนัด ถนนคนเดิน งานโอท็อปและงานวัดทั่วไป นอกจากนั้นยังได้โพสต์ขายทางเฟสบุ๊คอีกทางหนึ่งด้วย เพื่อหารายได้เลี้ยงดูลูกชายวัย 5 ขวบ ที่ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

นางสาวคัคนางค์ เล่าว่าเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2562 ได้รับการสอบถามมายังเฟซบุ๊กของตน ว่าให้ผลิตถุงพลาสติกสานใส่แก้วน้ำพร้อมติดลายเป็นรูปการ์ตูน โดราเอม่อน หมีพูห์ คิตตี้ จำนวน 20 ใบ ใบละ 80 บาท และให้นำมาส่งมอบในเขตเทศบาลพรานกระต่าย ในช่วงเช้าวันที่ 24 มิถุนายน 2562 ตนแจ้งว่าไม่มีลายโดราเอม่อน แต่คนสั่งเจาะจงว่าต้องลายการ์ตูนตามนี้เท่านั้น ตนจึงไปหาลายการ์ตูนมาติดให้ แล้วนำมาส่งให้ตามสถานที่นัดหมายหน้าธนาคารออมสินสาขาพรานกระต่าย ซึ่งอยู่ห่างสถานีตำรวจภูธรพรานกระไม่ถึง 50 เมตร

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

เมื่อถึงที่นัดหมายได้ส่งของให้กับผู้ชายคนหนึ่งที่เดินเข้ามารับสินค้าที่สั่ง โดยชายคนดังกล่าวได้จ่ายเงินให้จำนวน 1,600 บาท จากนั้นก็มีกลุ่มคนพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบเข้ามาจับกุมตนทันที และแจ้งว่าตนจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ โดยได้ดำเนินคดีตนเฉพาะลายโดราเมม่อนเท่านั้น

โดยกลุ่มคนดังกล่าวนำตนไปที่ห้องสืบสวนที่อยู่ด้านหลังสถานีตำรวจ พร้อมอธิบายข้อกล่าวหาและบทลงโทษ โดยได้ยื่นข้อเสนอว่าหากไม่อยากถูกดำเนินคดีให้นำเงินมาให้จำนวน 50,000 บาท แต่ตนมีเงินเพียง 5,000 บาท กลุ่มคนดังกล่าวได้บอกให้ตนไปหาเงินมาให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม และห้ามญาติๆของตนห้ามเข้าไปในห้องสืบสวน แม้แต่ลูกที่พิการก็ไม่ยอมให้ตนอุ้มเข้าไป จนกว่าตนจะจ่ายเงินเรียบร้อย

ตนจึงต้องนำสร้อยทองของสามีไปขายได้เงินมาจำนวนเกือบ 30,000 บาท กลุ่มคนดังกล่าวจึงไม่ดำเนินคดี โดยได้ทำบันทึกข้อตกลงยินยอมที่จะไม่ดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพรานกระต่ายไว้เป็นหลักฐาน จึงได้ถูกปล่อยตัวออกมาพร้อมกับใบถอนแจ้งความ

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ตนและครอบครัวรู้สึกเสียใจมาก เนื่องจากตนต้องทำงานเลี้ยงดูลุกชายที่ป่วย อยู่กับบ้าน ไม่คิดว่าจะถูกกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เข้ามาจับกุมดำเนินคดีกับตน แต่ตนเองไม่รู้มาก่อนว่าภาพทลายการ์ตูนที่ตนซื้อมาตามท้องตลาดทั่วไปจะละเมิดลิขสิทธิ์ และทำให้ตนต้องถูกจับดังกล่าว
สำหรับในเรื่องนี้ทางสำนักงานยุติธรรม จ.กำแพงเพชร จะลงพื้นที่ไปที่บ้านของนางสาวคัคนางค์ เพื่อสอบสวนหาความจริง เพื่อจะได้ดำเนินการต่อไป

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ทั้งนี้จากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพรานกระต่ายทราบว่า ในช่วงวันเวลาที่มีการจับกุมลิขสิทธิ์ พนักงานสอบสวนได้รับการประสานงานเพื่อให้ลงบันทึกการจับกุม เมื่อพนักงานสอบสวนตรวจสอบเอกสารพบว่ามีหนังสือมอบอำนาจ ณ วันเวลาดังกล่าวจริง แต่พนักงานสอบสวนได้ขอหนังสือดังกล่าวไว้ตรวจสอบ แต่ปรากฏว่ามีการแจ้งเหตุเข้ามา พนักงานสอบสวนจึงได้ให้คู่กรณีรอก่อน หลังจากออกเหตุกลับมาปรากฏว่าคู่กรณีได้ตกลงยินยอมเป็นที่เรียบร้อยและให้พนักงานสอบนวนลงบันมึกไว้เป็นหลักฐาน โดยยืนยันว่าทั้งคู่ได้ไปตกลงเจรจาไกล่เกลี่ยนกันด้านหลังสถานีตำรวจ จากนั้นจึงมาให้พนักงานสอบสวนลงบันทึกดังกล่าว