จากกรณีกลุ่มประชาชนผู้เสียหายได้เข้ายื่นเรื่องต่อศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข กระทรวงยุติธรรม ร้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีอาญา กรณีการชักชวนออมเงินผ่านทางโซเชียลมีเดีย ในชื่อ “แชร์แม่มณี” จนมีผู้เสียหายกว่า 5,000 ราย มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างประมาณ 1,500 ล้านบาท
ภาพจากอีจัน
ด้าน พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีคำสั่งให้เป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 62 เพื่อดำเนินการสืบสวนและสอบสวนคดีดังกล่าวตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 พร้อมทั้งได้สั่งการให้ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบและคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจสอบบัญชี ธุรกรรมทางการเงิน และทรัพย์สินของผู้ต้องสงสัยในทันที รวมทั้งเร่งอายัดทรัพย์สินไว้เพื่อพิจารณาว่าส่วนใดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และให้ประสานสำนักงาน ปปง. เพื่อร่วมกันพิจารณาหาแนวทางคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายตามกฎหมายควบคู่ไปกับการสอบสวนดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำผิด นั้น
ล่าสุดวันนี้ (12 พ.ย. 62) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สั่งการให้ ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจเอก สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ ผู้อำนวยการกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน และ พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ ได้เข้าพบและหารือกับ พลตำรวจตรี ปรีชา เจริญสหายานนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อประสานความร่วมมือระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เกี่ยวกับการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” หรือ แชร์ลูกโซ่ ภายใต้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ตลอดจนร่วมกันพิจารณาหาแนวทางคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายตามกฎหมายควบคู่ไปกับการสอบสวนดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำผิด เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถช่วยเหลือ เยียวยากลุ่มผู้เสียหายได้อย่างรวดเร็วภายใต้กฎหมายดังกล่าว