จับแม่เล้าวัย 37 ลวงสาวไทยไปค้ากามประเทศบาห์เรน

ตำรวจกองปราบฯ รวบแม่เล้าวัย 37 ปี หลอกสาวไทยไปค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรน

ภาพจากอีจัน

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.ศิริลักษณ์ กะเชียง อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 70/2561 ลงวันที่ 16 มกราคม 2561 ในข้อหา “สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และได้ลงมือกระทำผิดตามที่ได้สมคบกันโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี โดยใช้อุบายหลอกลวง และไม่ว่าการกระทำต่างๆอันประกอบเป็นความผิดนั้น จะได้กระทำภายในหรือภายนอกราชอาณาจักร ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขัง กระทำด้วย ประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย หรือขู่เข็ญด้วยประการใดๆ เพื่อข่มขืนใจให้ผู้อื่นนั้นกระทำการค้าประเวณี ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด และร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”

ภาพจากอีจัน

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2560 น.ส.เอ (นามสมมติ) ถูกกลุ่มคนร้ายชักชวนให้ไปทำงานที่ประเทศบาห์เรน จึงขึ้นเครื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิไปถึงประเทศบาห์เรน โดยมี น.ส.ไอชลิยา ชัยบุญจันทร์ เดินทางมารับ แล้วยึดพาสปอร์ต เงินสด และโทรศัพท์ ก่อนพาตัวมาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งและบังคับให้ค้าประเวณี แต่ น.ส.เอ ไม่ยอม จึงถูกส่งตัวให้ น.ส.ศิริลักษณ์ กะเชียง ซึ่งเป็นแม่เล้าอีกโรงแรมหนึ่ง แต่ผู้เสียหายก็ยังไม่ยอมไปค้าประเวณี ทำให้ถูกเอาตัวไปขายต่อให้แม่เล้า ชื่อ น.ส.อัครสมนต์ มณีโรจน์

ภาพจากอีจัน

จน น.ส.เอ แอบใช้โทรศัพท์ติดต่อมาหาญาติที่ประเทศไทย เพื่อให้ประสานกับสถานเอกอัครทูต ณ กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน เข้าช่วยเหลือนำตัวส่งกลับมายังประเทศไทย และประสานงานมายัง บก.ปคม. และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ และต่อมากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ได้ถูกจับกุมตัวดำเนินคดีไปแล้วจำนวน 3 ราย แต่ในส่วน น.ส.ศิริลักษณ์ฯ ยังคงหลบหนีการจับกุมอยู่

กระทั่ง เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนจนทราบว่า น.ส.ศิริลักษณ์ เดินทางไปเยี่ยมลูกและไปประกอบอาชีพค้าขายอยู่ในพื้นที่ จ.แพร่ ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 161 ม.1 ต.แม่ทราย อ.ร้องกวาง จึงได้ติดตามไปจับกุมตัวได้ในที่สุด

ภาพจากอีจัน

เบื้องต้น ในชั้นจับกุม น.ส.ศิริลักษณ์ ให้การว่า ตนเป็นหนึ่งในหญิงไทยที่สมัครใจไปค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรน แต่ไปทำมาหลายครั้งแล้ว ก็เลยมีหน้าที่แนะนำและให้คำปรึกษาเด็กใหม่ที่เพิ่งมาเป็นครั้งแรก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป