เปิดภาพ น้องกาย เขียนหนังสือมือขวา – ตร.ชี้ปังตอไม่เจอเลือด

เตรียมเรียกเพื่อนแม่สอบปากคำเพิ่ม หลังไม่พบคราบเลือดบนมีดปังตอ – ไม่ยันใครฆ่ารอผลตรวจวิทยาศาสตร์

จากเหตุฆาตกรรม น.ส.ยุรีย์ เถาวัลย์ อายุ 42 ปี แยกชิ้นส่วนยัดตู้เย็น ภายในบ้านหลังหนึ่ง แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ส่วนนายศิระ สมเดช อายุ 20 ปี ลูกชาย น.ส.ยุรีย์ ได้ใช้อาวุธปืนของแม่ขนาด .38 ลั่นไกใส่ตัวเองที่ขมับข้างขวาทะลุซ้าย 1 นัด อาการสาหัส ถูกนำตัวส่ง โรงพยาบาลนครธน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ล่าสุดวันนี้ (26 พฤศจิกายน 2562) ที่ สน.ท่าข้าม พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.9 เปิดเผยความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า ทางตำรวจต้องอาศัยเวลาและพยานหลักฐานที่จะทำให้พิสูจน์ทราบได้ว่าการเสียชีวิตของผู้ตายที่ถูกหั่นศพนั้นเกิดจากผู้ใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยังไม่มีประจักษ์พยานยืนยัน จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวมีแม่กับลูกอยู่เพียงสองคนเท่านั้น โดยมีพยานอีกสองคนเข้ามาแล้วพบกับเหตุการณ์จากนั้นจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งพยานสองคนบอกว่าลูกชายได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง
ภาพจากอีจัน
ส่วนกระแสสังคมที่ตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของทั้งสองคนหรือไม่ พล.ต.ต.โชคชัย กล่าวว่า ในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่จะพยายามรวบรวมพยานหลักฐาน และรับฟังอยู่ โดยตำรวจยังไม่ได้ตัดประเด็น ทั้งนี้เราไม่ได้ระบุว่าลูกเป็นคนทำ เรารู้แต่ว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาแต่ยังไม่มีอะไรมาตอบข้อสงสัย ซึ่งเราก็ต้องหาพยานหลักฐานที่มีทุกอย่าง เมื่อถามต่อว่าสิ่งที่ต้องการหามีอะไรเพิ่มเติมอีกนอกจากกล้องวงจรปิด โทรศัพท์ และพยานแวดล้อม พล.ต.ต.โชคชัย กล่าวว่า ต้องการทุกอย่าง โดยได้ให้ฝ่ายสืบสวนสืบสวนในเชิงเทคนิค หากได้ความชัดเจนกระจ่างแล้วจะชี้แจงให้ทราบ ส่วนข้อสงสัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่กำลังทำงานกันอยู่ ส่วนเรื่องการเสียชีวิตต้องให้ทางแพทย์รายงานผลการชันสูตรมาว่าผู้ตายเสียชีวิตไปแล้วกี่ชั่วโมง ซึ่งในทางสืบสวนก็ต้องดูว่าผู้ตายติดต่อกับใครครั้งสุดท้าย มีการติดต่อเมื่อไหร่ แล้วพอมีพยานหลักฐานที่พอจะเชื่อมโยงว่าเป็นเรื่องที่ยืนยันได้ว่าผู้ตายจะมีชีวิตอยู่ตอนนั้นหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องของการสืบสวน เหตุเกิดยังไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่งานสืบสวนทั้งสืบสวน บก.น.9 และสืบสวน สน.ท่าข้าม ได้ทำงานกันก่อน ทั้งนี้จะมีการประชุมทีมสืบสวนเพื่อรวบรวมว่าประเด็นใดบ้างควรจะต้องไปดำเนินการ ถึงจะมาสรุปรวมอีกครั้งว่าประเด็นการเสียชีวิตของทั้งสองคนเกิดจากผู้ใดเป็นผู้ทำ พล.ต.ต.โชคชัย กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้เตรียมเรียกสองพยานที่พบศพมาสอบปากคำเพิ่มเติม ในฐานะที่บุคคลทั้งสองมีความใกล้ชิดกับผู้ตาย ทั้งนี้ได้มีการเก็บดีเอ็นเอ คราบเขม่าปืนจากพยานทั้งสองคนที่เข้าไปด้วย รวมถึงจะสอบสวนพยานแวดล้อมต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงพยานทั้งสองคนในประเด็นที่สังคมสงสัยให้คลี่คลายทุกประเด็น นอกจากนี้จะต้องไปสอบปากคำแพทย์ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา ที่จ่ายยาว่าอาการป่วยของผู้ตายถึงขั้นไหนจะตัองพิสูจน์ทราบ อย่างไรก็ตามยังไม่มีประจักษ์พยานยืนยันว่าใครเป็นผู้ฆาตกรรม จึงต้องอาศัยพยานแวดล้อม และพยานหลักฐานอื่นๆ ให้ตอบข้อสงสัยให้ครบถ้วน ส่วนประเด็นของคนที่ก่อเหตุมีมากกว่าหนึ่งคนหรือไม่ ทางตำรวจยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ยืนยันว่าตำรวจไม่กดดัน ในการทำงาน โดยจะต้องคลี่คลายข้อสงสัยในทุกประเด็นให้สังคมได้รับทราบข้อเท็จจริง ซึ่งล่าสุดมีการเผยแพร่คลิปน้องกาย ผู้เสียชีวิตอีกรายสั้นๆ ซึ่งเผยให้เห็นว่าน้องกายใช้มือขวาเขียนหนังสือ
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ขณะที่ พ.ต.อ.ธีระ เถระพัฒน์ ผกก.สน.ท่าข้าม เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้เสียชีวิตถนัดมือซ้ายแต่ยิงตัวเองด้วยมือขวานั้น ว่า หลักฐานสำคัญที่จะสามารถยืนยันได้เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนอาวุธมีดนั้นไม่พบคราบเลือด แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมมีดทั้งหมดเพื่อตรวจสอบแล้ว ส่วนชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ ทางแพทย์ยืนยันว่าได้ครบทุกส่วนแล้ว รวมถึงได้สอบปากคำตำรวจที่อยู่หน้าบ้านหลังเกิดเหตุแล้วเบื้องต้นให้การว่าก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นนั้น ได้ยินเสียงลูกชายร้องโวยวายว่าไม่ต้องเข้ามาภายในบ้าน แต่ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะอะไร ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของพยานที่อยู่ในบ้าน แต่อย่างไรก็ตามจะต้องสอบปากคำตำรวจนายดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง พ.ต.อ.ธีระ กล่าวต่อว่า หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จะตอบข้อสงสัยได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งหมดยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง เราไม่มีใครเห็นเหตุการณ์แต่อยากทราบข้อเท็จจริง ตำรวจพยายามไปถึงผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งขณะนั้นยังไม่เสียชีวิตจึงนำส่งโรงพยาบาล เพราะหวังว่าจะได้ความจริงด้วยแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้