เผยแพร่เมื่อ : 13 ม.ค. 2564, 15:39
27 พ.ย. 62 ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ร่วมกับมูลนิธิรณสิทธิ์ เข้าจับกุมคาราโอเกะในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังสงสัยว่าอาจมีการลักลอบนำพาเด็กหญิงสัญชาติลาว อายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาขายบริการทางเพศ ซึ่งเข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
โดยปฏิบัติการใช้ชื่อว่า “ศรีราชาคลีนนิ่ง” กำลังหลักของชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เเละมูลนิธิรณสิทธิ์ ช่วยเหลือเด็ก สตรี เเละเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ร่วมกันวางเเผนก่อนเข้าจับกุม คาราโอเกะในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังชุดสายลับพบความเคลื่อนไหวของขบวนการนำพาเด็กหญิงสัญชาติลาว เข้ามาขายบริการทางเพศ ซึ่งสงสัยว่าในจำนวนพนักงานหญิงบริการ อาจมีเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งเข้าข่ายการค้ามนุษย์ และทันทีที่สายลับส่งสัญญาณความพร้อม ปฏิบัติการก็เริ่มขึ้นทันที
โดยพื้นที่เป้าหมาย ตั้งอยู่บนทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ พื้นที่ศรีราชา ชื่อร้าน ตอพยอม ที่ตั้งเป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา ติดริมถนน เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าปิดล้อมทางเข้า-ออก และไม่อนุญาตให้ใครออกนอกพื้นที่ ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งพบหญิงบริการส่วนหนึ่งนั่งกับนักเที่ยว
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ทั้งนี้ขณะเข้าทำการสืบสวน สายลับฝ่ายปกครองพิจารณาจากสรีระรูปร่าง หน้าตาพนักงานหญิงบริการของร้านแล้ว น่าเชื่อได้ว่าร้านตอพยอม มีพนักงานหญิง 2 ราย น่าจะเป็นบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี พร้อมสอบถาม น.ส.เอ (นามสมมติ) ถึงการขายบริการทางเพศ น.ส. เอ ได้บอกว่า “คิดค่าบริการทางเพศครั้งละ 1,500 บาท โดยตนจะได้ส่วนแบ่งจากการขายบริการทางเพศครั้งละ 700 บาท ทางร้านจะได้รับส่วนแบ่งครั้งละ 800 บาทรวมค่าห้องแล้ว”
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ส่วน น.ส บี (นามสมมติ) บอกว่ามาจาก สปป.ลาว ได้รับการชักชวนจากเพื่อนที่เคยมาทำงานที่ร้านแห่งนี้ ชวนมาทำงานร้านอาหารและเสิร์ฟเครื่องดื่มเท่านั้น แต่พอมาถึงร้าน จึงจะรู้ว่าต้องออกขายบริการทางเพศด้วย ถ้าตนรู้แต่แรกว่าจะต้องมาขายบริการทางเพศตนจะไม่เดินทางมาเลย และ น.ส.บี บอกว่าตนได้ถูกเปิดบริสุทธิ์ ที่ร้านตอพะยอม ในราคา 30,000 บาท ปัจจุบันคิดค่าบริการทางเพศ ครั้งละ 1,300 บาท โดยตนจะได้ส่วนแบ่งจากการขายบริการทางเพศครั้งละ 500 บาท ทางร้านจะได้รับส่วนแบ่งครั้งละ 800 บาทรวมค่าห้องแล้ว” ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมหญิงให้บริการค้าประเวณีได้ 5 คน เป็นคนสัญชาติไทย 2 คน และสัญชาติลาว 3 คน ในจำนวนนี้เป็นหญิงสัญชาติลาว คาดว่าเป็นเยาวชนหญิง จำนวน 2 คน โดยมี นางสาววชิราภรณ์ วชิรไชยนันท์ อายุ 22 ปี รับเป็นเจ้าของร้าน ขณะตรวจเข้าตรวจสอบพบสมุดบัญชีขึ้นรอบขายบริการ เจลหล่อลื่น ยาคุมกำเนิด และถุงยางอนามัยเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง ได้แจ้งข้อหากับเจ้าของร้านตอพยอม ดังนี้ – เป็นธุระจัดหาหรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี – เป็นผู้ดูแลหรือผู้จัดการการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี – เป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งชายหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม – ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ หลังจากนี้จะได้นำพนักงานหญิง ทั้ง 5 คน ทำการสัมภาษณ์เบื้องต้นเพื่อประกอบบันทึกจับกุม และนำข้อมูลไปสู่การคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยสหวิชาชีพ รวมทั้งให้ความคุ้มครองและฟื้นฟูผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ต่อไป ซึ่งหากพยานหลักฐานชัดเจนว่าพนักงานหญิงบริการในร้านตอพยอม อายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ผู้ถูกจับจะถูกดำเนินคดีในความผิดฐานค้ามนุษย์ เพิ่มเติมด้วย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กล่าวว่า ปัญหาการค้ามนุษย์เป็นปัญหาสำคัญของสังคมไทยที่ทั่วโลกกำลังจับตามอง เพราะเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง การถือเอามนุษย์ซึ่งมีชีวิตจิตใจเป็นสินค้าในการซื้อขายแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ เป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศ ประชาชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ขจัดการค้ามนุษย์ หากพบเห็นเบาะแส หรือการกระทำที่เข้าข่ายค้ามนุษย์ สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย หมายเลขโทรศัพท์ 1567 ขณะที่ นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ ช่วยเหลือเด็ก สตรี และเหยื่อจากการค้ามนุษย์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาในการหาข้อมูลมาค่อนข้างนาน ประมาณ 6 เดือน เนื่องจากขบวนการค้าประเวณีปัจจุบันค่อนข้างชับซ้อน หลบหนีเจ้าหน้าที่ได้ค่อนข้างแยบยล โดยในวันนี้เปิดปฏิบัติการขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ซึ่งจากการพิสูจน์ทราบข้อมูลเบื้องต้น คาดว่ามีผู้เสียหายที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ผู้เสียหายได้ถูกย้ายไปอยู่อีกสถานที่หนึ่งแล้ว เพื่อให้มีความปลอดภัย นายรณสิทธิ์ เปิดเผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่เคยเข้ามาตรวจสอบสถานที่แห่งนี้แล้ว 3-4 ครั้ง พบว่าขบวนการก่อเหตุมีความระมัดระวัง ปกป้องการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐค่อนข้างแยบยล จึงต้องใช้ความพยายามและเวลาในการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์