
เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ซึ่งเป็นการปะทะวันแรก เวลา 22.30 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จำนวนประชาชนผู้ที่ได้ทำการอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้ง 4 จังหวัด มีจำนวนรวม 100,672 คน ศูนย์พักพิง 295 แห่ง จำแนกเป็น จังหวัดสุรินทร์ 56,000 คน ศูนย์พักพิง 67 แห่ง จังหวัดศรีสะเกษ 17,196 คน ศูนย์พักพิง 58 แห่ง จังหวัดบุรีรัมย์ 17,000 คน ศูนย์พักพิง 1 แห่ง และจังหวัดอุบลราชธานี 10,476 คน ศูนย์พักพิง 169 แห่ง

ขณะที่เวลาประมาณ 21.00 น. ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (ในสถานการณ์สู้รบชายแดน) โพสต์เฟซบุ๊ก สรุปสถานการณ์การปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ผ่านเฟซบุ๊ก Varoth Chotpitayasunondh ว่า
Update จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตล่าสุด จากสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา โดยกระทรวงสาธารณสุข (24/7/68 เวลา 21.00 น.) เสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 46 ราย
ความคืบหน้าวันนี้ (25 ก.ค.68) เวลา 08.07 น. เพจ กองทัพภาคที่ 2 โพสต์ เเจ้งเตือน
ขอให้ประชาชน อย่าเข้าใกล้ตามเเนวชายเเดน มีเหตุปะทะ !!!
“เเจ้งเตือน ! ขณะนี้เกิดการปะทะในพื้นที่ตามเเนวชายเเดนหลายพื้นที่
ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่ตามเเนวชายเเดน #กองทัพภาคที่2″

วันนี้ (25 ก.ค.68) เวลา 8.30 น. มีรายงานว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการ ให้ทุกหน่วยเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกระดับมาตรการรักษาความสงบ ปลอดภัยและความมั่นคงของราชอาณาจักร
วันนี้ (25 ก.ค.68) เพจไทยคู่ฟ้า เปิดมาตรการทางการเงิน ที่รัฐฯ มอบหมายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ดำเนินมาตรการด้านการเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา

เปิดไทม์ไลน์ช่วงเช้าวันที่ 2 ของการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา (25 ก.ค.68) พบว่า กัมพูชา เริ่มยิงตั้งแต่ ตี 4 ในพื้นที่ช่องบก และภูมะเขือ จ.อุบลราชธานี รวมถึงในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ฝ่ายไทยตอบโต้ด้วยอาวุธตามสถานการณ์
กองทัพภาคที่ 2 ย้ำ! ประชาชนในพื้นที่ ให้หลีกเลี่ยง และห้ามบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้พื้นที่ตามแนวชายแดนที่ยังมีการปะทะ

อัปเดตวันนี้ (25 ก.ค.68) เวลา 10.00 น. กองทัพภาคที่ 2 โพสต์ อาชญากรรมสงคราม (War Crimes) คือ การละเมิด กฎหมายและธรรมเนียมของสงครามที่เกิดขึ้นอย่างร้ายแรง
– การจงใจโจมตี พลเรือน หรือเป้าหมายที่ไม่ใช่ทางทหาร
– การโจมตีโรงพยาบาล โรงเรียน
– การใช้อาวุธที่ไม่เลือกเป้าหมาย
– ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์

สรุปยอดสูญเสียของฝ่ายกัมพูชา
จากเหตุปะทะวันที่ 24–25 ก.ค. 68 (เวลา 8.43 น.)
วันที่ 24 ก.ค. 68
หน้าปราสาทตาเมือนธม
‣ ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย (จากกองพันพลน้อย ร.42)
ใต้ปราสาทตาเมือนธม
‣ มีผู้เสียชีวิตรวม 8 ราย
• พื้นที่ภูมะเขือ
‣ ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 14 นาย จากการถูกโจมตีทางอากาศ
วันที่ 25 ก.ค. 68
• บริเวณตรงข้ามช่องบก
‣ ปืนใหญ่ไทยยิงทำลายปืนครก ค.100 ได้ 6 กระบอก
‣ ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 2 นาย
รวมยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด: 25 ราย

อัปเดตเวลา 10.20 น. วันที่ 25 ก.ค.68 เพจ กองทัพภาคที่ 2 โพสต์อัปเดต ทีม EOD ทัพภาค 2 และ ตชด.ภาค 2 เสร็จสิ้นภารกิจ เก็บกู้วัตถุระเบิด ที่ตกค้างอยู่ในร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน ปตท. อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จนหมดแล้ว และ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้เคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตออกจากพื้นที่แล้ว
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยครับ

เปิด 22 จุดรับบริจาคด่วน ช่วยชาวบ้าน หนีตายเหตุปะทะ ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ใครอยู่ใกล้ที่ไหน ไปบริจาคตามจุดที่สะดวกได้เลยค่ะ
1. หมอน + ผ้าห่มบางๆ กันยุงได้
2. เสื้อผ้า
3. ผ้าเช็ดตัว
4. สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ยาสระผม
5. นมผงเด็ก
6. แพมเพิสเด็ก
7. ผ้าอนามัย
8. สเปรย์กันยุง
9. วัตถุดิบประกอบอาหาร (ของสด ผัก เครื่องปรุง)




ขอสดุดีทหารกล้า ปกป้องอธิปไตย พลีชีพเพื่อชาติ
ข่าวเศร้าเช้าวันนี้ (25 ก.ค.68) เราสูญเสีย จ.ส.อ. ธวัชชัย บุสภา ตำแหน่ง นายสิบ ลว. ป.6 พัน.106 จากเหตุปะทะบริเวณแนวชายแดนไทย – กัมพูชา พื้นที่ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ
อีจันขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวทหารกล้าด้วยนะคะ
แผ่นดินรับเขาไว้แล้ว เกียรติยศจะจารึกไว้นิรันด์

เรื่องราวของ “ทหารกล้า…ผู้เป็นพ่อ”
แม้ต้องอยู่แนวหน้า แต่หัวใจยังอยู่ที่บ้าน…กับลูกชายตัวน้อยคนเดิม
“โทรหาลูก…ขอกำลังใจจากคนที่พ่อรักที่สุด”
“วันนี้พ่ออาจคุยกับหนูได้แค่ครั้งเดียว…พ่อมีงานเยอะ
อย่าร้องนะลูก ห้ามร้องนะ รอบนี้พ่ออาจกลับช้าหน่อย
ไม่ได้พาไปฉีดวัคซีน อีสุกอีใสเลยวันไปแล้วด้วย”
“ปุณย์…ได้ยินพ่อมั้ย? ไหนใครชื่อปุณย์ยกมือขึ้น”
“ถ้าพ่อยังไม่กลับ อย่าดื้อกับแม่นะครับ ได้ยินมั้ย?”
“แค่นี้ก่อน พ่อขับรถอยู่ อีก 30 กิโลถึงวัด เดี๋ยวพ่อจะโทรหาใหม่นะ
ไม่ต้องร้อง…ปุณย์อย่าดื้อนะลูก”
ในเวลาที่ประเทศต้องการ
“พ่อ” ต้องเปลี่ยนจากอ้อมกอดลูก มาเป็นมือที่ถือปืน
ต้องทิ้งบ้านที่อบอุ่น…มาอยู่กับเสียงปืน เสียงระเบิด
แต่หัวใจพ่อยังอ่อนโยนเสมอ
“ขอบคุณที่ยังห่วงลูก บอกลูกก่อน พ่อสบายดี
ทางนี้ไม่ต้องห่วง แม่เลี้ยงลูกได้เหมือนเคย
พ่อขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด…แม้บางครั้งต้องเหงาอยู่ลำพัง”
ตั้งสติไว้ดี ๆ ตามองระเบิด หลบให้ทัน
หน้าที่ที่อยู่ในมือ…ต้องไม่พลาด
แม้ชีวิตครอบครัวจะไม่สมบูรณ์
แต่ขอให้ “หน้าที่ต่อชาติ” สำเร็จ
พ่อขอเลือกเห็นแก่ส่วนรวมเป็นที่หนึ่ง
เขาอาจไม่ได้สมบูรณ์แบบในฐานะสามี
แต่เขายืนหยัดในฐานะ “พ่อ” และ “ทหาร” ผู้เสียสละ
อีจัน ขอเป็นกำลังใจให้ทหารทุกนาย อยู่รอดปลอดภัย พ้นภัยทั้งปวงนะครับ

รองแม่ทัพภาค 2 #มากอดชาวบ้าน
เช้าวันนี้ 25 ก.ค. 68 พลตรี นรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางมาให้กำลังใจชาวบ้านชายแดน จ.ศรีสะเกษ ที่หนีตายจากเหตุปะทะ กัมพูชา เปิดฉากยิงไทย
ชาวบ้านหลายชีวิต มีทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ต่างเสียขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ซึ่งรองแม่ทัพภาค 2 ได้พูดให้กำลังใจ ทำให้ชาวบ้าน มีกำลังใจ จนกว่าเหตุการณ์นี้จะผ่านพ้นไป
*** อีจัน ได้รับอนุญาตให้บันทึกภาพ โดยไม่ได้บอกพิกัด เพื่อนำเสนอผลกระทบ ที่เกิดขึ้นกับชาวบ้าน ในเหตุขัดแย้งไทย – กัมพูชา ***
















ทหารเรือมาแล้ว!
วันนี้ 25 ก.ค. 68 เพจเฟซบุ๊ก กองทัพเรือ Royal Thai Navy โพสต์ข้อความแจ้งข้อมูล จาก กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ที่ออกคำสั่งปิดจุดผ่านแดนจันทบุรี และตราด ตลอดแนวชายแดนทั้งทางบกและทางทะเล ห้ามยานพาหนะทุกประเภทผ่านแดน, รวมทั้งประชาชน นักท่องเที่ยว ห้ามผ่านแดน งดค้าขาย และ งดการสัญจรทางทะเลในน่านน้ำไทย ที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของ กปช.จต. มีผลทันที
ใครจำเป็นต้องเดินทางไปมาแถวนั้น เช็กเส้นทางกันก่อนนะครับ พื้นที่อันตราย เลี่ยงได้เลี่ยงครับ

คืบหน้าเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 2
วันนี้ 25 ก.ค. 68 #กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force โพสต์แจ้งเตือน ขณะนี้ยังเกิดเหตุปะทะในพื้นที่ตามแนวชายแดนหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่เสี่ยง 20-40 กม. ตามแนวปะทะชายแดน และงดการเผยแพร่ ภาพ/ข้อมูล/บุคลากร เช่น ภาพ/เสียง/เวลา ที่แสดงตำแหน่งเครื่องบินผ่าน เครื่องบินวิ่งขึ้น ภาพนักบินและเจ้าหน้าที่ ในการปฏิบัติการทางทหาร

สดุดีวีรบุรุษกล้า “น้องแม็ก” พลทหาร วรัญชิต ยวงสุวรรณ อายุ 23 ปี ถูกปืนใหญ่แตกใส่จนเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณแนวชายแดน บ้านโนนวันชัย ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ แจ้งชาวบ้านในพื้นที่ อ.ภูสิงห์ อพยพด่วน เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย
ประชาชนในพื้นที่ นอกเหนือแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ได้แก่
• ตำบลห้วยตึ๊กชู
• ตำบลละลม
• ตำบลตะเคียนราม
• ตำบลห้วยตามอญ
• ตำบลโคกตาล
ขอให้รีบอพยพโดยด่วน ไปยัง จุดรับรองผู้อพยพในพื้นที่อำเภอปรางค์กู่
โดยมี ศูนย์ประสานงานที่ว่าการอำเภอปรางค์กู่ เป็นหน่วยกลางประสานการช่วยเหลือ
โปรดติดตามข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิด
ห้ามเดินทางกลับเข้าพื้นที่จนกว่าจะมีคำสั่ง
ข้อมูลจาก : #ที่ว่าการอำเภอภูสิงห์#สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ

บ่ายวันนี้ (25 ก.ค.68) ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์การอพยพประชาชนกรณีภัยทางอากาศ จ.สุรินทร์ เผยแพร่ประกาศ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ได้สั่งให้ รพ.กาบเชิง , รพ.พนมดงรัก ปิดให้บริการเป็นการชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์ #เหตุปะทะชายแดน ยังคงระอุ ขณะที่ รพ.สังขะ และ รพ.บัวเชด ประกาศรับเฉพาะเคสฉุกเฉินเร่งด่วนเท่านั้น พร้อมข้อแนะนำสำหรับประชาชนในพื้นที่ หากเจ็บป่วยทุกกรณี แนะนำให้ไปที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวใกล้ท่านก่อน เพื่อความปลอดภัย
แจ้งคนในพื้นที่รับทราบกันด้วยนะครับ เจ็บป่วยจะได้ไปถูกสถานที่

วันนี้ (25 ก.ค. 68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีที่มีรายงานว่าฝ่ายกัมพูชาได้ทำหนังสือถึงองค์การยูเนสโก (UNESCO) โดยกล่าวอ้างว่าฝ่ายไทยได้ใช้อาวุธยิงสนับสนุนในการปฏิบัติการทางทหาร จนส่งผลให้ปราสาทพระวิหารได้รับความเสียหาย
ในเรื่องนี้ กองทัพบกขอเรียนว่า การปฏิบัติของกำลังทหารไทยมีเป้าหมายอย่างชัดเจนในการตอบโต้เฉพาะต่อกำลังทหารฝ่ายกัมพูชา โดยมิได้มุ่งเป้าไปยังพื้นที่พลเรือน หรือสถานที่ใด ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางทหารแต่อย่างใดและพื้นที่ตัวปราสาทพระวิหารไม่ได้อยู่ในแนวทิศทางของการใช้อาวุธฝ่ายไทย
ดังนั้น ข้อกล่าวหาของฝ่ายกัมพูชาที่ระบุว่าปราสาทพระวิหารได้รับความเสียหายจากการโจมตีของฝ่ายไทย จึงถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ยังสอดคล้องกับข้อมูลที่กองทัพบกได้ตรวจพบว่า มีความพยายามเผยแพร่ข่าวสารที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงจากฝ่ายกัมพูชาในหลายประเด็นอย่างต่อเนื่อง
กองทัพบกขอยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินการอย่างรอบคอบภายใต้หลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ โดยมิให้เกิดผลกระทบต่อบุคคลหรือทรัพย์สินที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางทหาร

คืบหน้าชายแดนเดือด วันที่ 2
กัมพูชา” ได้ส่งหนังสือร้องถึงสหรัฐฯ ปมไทยใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 ทิ้งบอมบ์โจมตีกัมพูชา ถือเป็นการละเมิดเงื่อนไขการใช้งานเครื่องบิน
ร่องรอยเหตุปะทะ กระสุนจรวด BM-21 ตกใส่บ้านประชาชน พังเสียหาย โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ
กองทัพบอก รายงาน เมื่อเวลา 08.50 น. วันนี้(25 ก.ค. 68) เกิดเหตุกระสุนจรวด BM-21 ตกลงในพื้นที่บ้านเรือนประชาชน ต.ศรีวิเชียร อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี รวม 3 จุด คือ
– ตกใส่บ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้าน ได้รับความเสียหาย
– ตกใส่บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ได้รับความเสียหาย
– ตกใส่ถนนภายในหมู่บ้าน ได้รับความเสียหาย
เบื้องต้นไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว คาดว่าประชาชนได้อพยพไปยังศูนย์พักพิง ซึ่งจัดตั้งโดยฝ่ายปกครองอำเภอน้ำยืนก่อนหน้านี้แล้ว












รัฐบาล อนุมัติเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา กรณีเสียชีวิต 1 ล้านต่อราย
วันนี้ (25 ก.ค. 68) เวลา 11.00 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย โดยที่ประชุมได้มีมติอนุมัติในหลักการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดังนี้
1. กรณีเสียชีวิต เป็นค่าจัดการศพ รายละ 1,000,000 บาท
2. กรณีทุพพลภาพ รายละ 700,000 บาท
3. กรณีบาดเจ็บสาหัส รายละ 200,000 บาท
4. กรณีบาดเจ็บมาก รายละ 100,000 บาท
5. กรณีบาดเจ็บเล็กน้อย รายละ 50,000 บาท
วันนี้ 25 ก.ค. 68 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาตอบโต้กรณีโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวหาฝ่ายไทยว่าใช้อาวุธและเครื่องบินขับไล่ F-16 โจมตีเป้าหมายภายในกัมพูชา รวมถึงพื้นที่ทางประวัติศาสตร์และชุมชนพลเรือน
นายจิรายุระบุว่า คำกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างไร้ยางอาย พร้อมใช้คำภาษาเขมรว่า “កុំបោក” หรือ “กอม บาวก์” ซึ่งหมายถึง “อย่าโกหก” เพื่อตอกกลับพฤติกรรมของฝ่ายกัมพูชาที่พยายามหลอกลวงชาวโลก
“เขมรจำนนด้วยหลักฐาน แต่ยังโกหกหน้าตาเฉย” โฆษกรัฐบาลกล่าว
วันนี้ (25 ก.ค. 68) ที่โรงเรียนอนุบาลครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นายนภัสดล ลิมปิเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมคณะครูและนักเรียนภายในโรงเรียน ร่วมใจกันร้องเพลงชาติและวาดภาพธงชาติไทย พร้อมข้อความ “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” บริเวณโดมหน้าเสาธงกันอย่างตั้งใจ เพื่อส่งกำลังใจให้แก่เหล่าทหารกล้า ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่หวั่นไหวเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย



