กสม. ยืนยันมีหลักฐานปู่คออี้เกิดในแผ่นดินไทยไม่ใช่พม่า

กสม. เข้าเยี่ยมปู่คออี้ ยืนยันมีหลักฐานเกิดในไทยไม่ใช่พม่า หลังสื่อเสนอข่าวไม่ตรงข้อเท็จจริง

จากคดีเผาบ้านกะเหรี่ยงแก่งกระจาน เพื่อทำการไล่ที่เนื่องจากพบมีว่ามีการบุกรุกอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

โดยเมื่อวานนี้ศาลปกครองสูงสุด วินิจฉัยแล้วว่า กรมอุทยานแห่งชาติ ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ แก่ ชาวกะเหรี่ยงที่ยื่นฟ้องทั้ง 6 คน

โดยมีจำนวนแตกต่างกันไปตามความเสียหายที่ศาลพิจารณา

ภาพจากอีจัน


วันนี้ (14 มิ.ย.61) นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เดินทางเข้าไปเยี่ยม ปู่คออี้ ที่บ้านบางกลอย เเละได้โพสต์เรื่องราวผ่านเพจเฟซบุ๊ก "คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ" โดยมีข้อความว่า ..

"สืบเนื่องจากกรณีที่ปรากฏข่าวในรายงานของสื่อมวลชนบางสำนักระบุว่า “…ล่าสุด เจ้าหน้าที่มีหลักฐานชัดเจน จากกรณีที่นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เดินทางไปเยี่ยม คออี้ที่บ้านบางกลอย ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเพื่อติดตามความคืบหน้า โดยคออี้ได้เล่าให้นางเตือนใจฟังว่าตนเองนั้นเกิดที่ต้นแม่น้ำภาชี ใกล้ๆ กับบ้านพุระกำ จ.ราชบุรี ซึ่งไม่ใช่เกิดในประเทศไทย ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลที่มีการให้ข่าวตลอดมาว่า คออี้เกิดที่ใจแผ่นดินและอาศัยอยู่มานานนับร้อยปี…”

ภาพจากอีจัน
นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า ถ้อยคำที่ปู่คออี้บอกเล่ากับตนในคลิปดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่ได้แตกต่างหรือขัดแย้งไปจากรายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิ

มนุษยชน ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติหรือเป็นที่รับทราบโดยทั่วไปก่อนหน้านี้แต่อย่างใด

เนื่องจากพื้นที่ที่เรียกว่าบ้านใจแผ่นดินอยู่ในเขตจังหวัดเพชรบุรีซึ่งไม่ไกลจากบ้านพุระกำ จังหวัดราชบุรี โดยมีแนวสันเขาต้นน้ำลำภาชีแบ่งเขตกั้น

ที่สำคัญพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตประเทศไทยไม่ใช่ประเทศพม่าตามที่มีการระบุในรายงานข่าวแต่อย่างใด ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับหลักฐานเอกสาร

ทะเบียนสำรวจบุคคลในบ้านสำหรับชาวเขา หรือ ทร.ชข. ซึ่งสำรวจโดยกรมประชาสงเคราะห์ ระบุชัดเจนว่า

ปู่คออี้เกิดเมื่อปี ๒๔๕๔ ที่จังหวัดเพชรบุรี บิดาชื่อนายมิมิ และมารดาชื่อนางพีนอคี

นอกจากนั้น ยังมีหลักฐานภาพถ่ายที่ปรากฏว่าปู่คออี้และกะเหรี่ยงบ้านใจแผ่นดิน เดินทางไปหากำนัน ตำบลสวนผึ้ง เพื่อนำของป่าไปขายยังตัวเมืองจังหวัดเพชรบุรี

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
กสม.เตือนใจ กล่าวเพิ่มเติมว่า การสร้างข่าวว่าปู่คออี้ไม่ได้เกิดในประเทศไทย อาจเป็นความพยายามในการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อประโยชน์ในทางคดีทำให้ศาลและประชาชนทั่วไทยเข้าใจว่า

ปู่คออี้เป็นคนพม่าเข้ามาบุกรุกอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ไม่ใช่ชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม

นอกจากนั้นมีข้อสังเกตว่า ตนลงพื้นที่ไปเยี่ยมปู่คออี้ที่บ้านบางกลอย ตั้งแต่วันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๑ แต่เพิ่งมีการนำคลิปดังกล่าวออกมาเผยแพร่ภายหลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา กรณีการเผาบ้านกะเหรี่ยงแก่งกระจาน เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายนที่ผ่านมา

โดยให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ต้องจ่ายค่าเสียหายให้แก่ปู่คออี้และพวกรวม ๖ คน จะมีเจตนาแอบแฝงเรื่องอื่นหรือไม่

ทั้งนี้ ตนเองจะทำหนังสือเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกต้องถึงกองบรรณาธิการของสำนักข่าวที่ได้เสนอข่าวในเรื่องดังกล่าว

และเรียกร้องให้สื่อมวลชนตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องและมีความรอบคอบก่อนนำเสนอข่าว "

ภาพจากอีจัน
ขอบคุณภาพจาก : สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ