แม่ มือเผาเมีย ยันลูกไม่ยุ่งยาเสพติด เชื่ออารมณ์ชั่ววูบ

แม่ขอประกันหนุ่มราดน้ำมันเผาเมีย หลังโดนคดีพยายามฆ่า เผยเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เชื่อลูกทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

จากกรณี นายอุเทน ธงศรี อายุ 26 ปี ก่อเหตุราดน้ำมันและจุดไฟเผา นางสาวไหมทอง ปิ่นสา อายุ 23 ปี หลังตามง้อนางสาวไหมทอง ขอคืนดีหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยนางสาวไหมทอง ถูกไฟคลอกไหม้เกรียมอาการสาหัสเกือบทั้งตัว ส่วนนายอุเทน ก็ได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้เช่นกัน เบื้องต้น ศาลได้อนุมัติออกหมายจับ นายอุเทน ฐานความผิดพยายามฆ่า พร้อมดำเนินการจับกุมอายัดตัวขณะรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น

ภาพจากอีจัน

ล่าสุด (29 พฤศจิกายน 2562) พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ อรัณยกานนท์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินคดีว่าในคดีดังกล่าว นางสมบุญ ธงศรี อายุ 48 ปี แม่ผู้ก่อเหตุ ได้นำเอกสารหลักฐานเข้ายื่นประกันตัวนายอุเทน ซึ่งทางตำรวจได้กำหนดวงเงินประกันในชั้นพนักงานสอบสวน จำนวน 3 แสนบาท โดยทางญาติได้ใช้ตำแหน่ง กำนัน 1 คน และผู้ใหญ่บ้านอีก 2 คน ในการยื่นขอประกันตัว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้มีการประกันตัว

ภาพจากอีจัน

แต่ทางแพทย์ที่ตรวจรักษา ยังไม่อนุญาตให้ผู้ต้องหาออกจากโรงพยาบาล เนื่องจากยังมีอาการบาดเจ็บ ต้องรักษาต่อเนื่องประมาณ 1-2 เดือน ทางตำรวจจึงใช้วิธีการอายัดตัวตามขั้นตอนกฎหมาย เนื่องจากผู้ต้องหายังไม่สามารถนำตัวไปฝากขังได้ ซึ่งมีห้วงระยะเวลาในการทำสำนวนส่งฟ้อง ตามขั้นตอนประมาณ 6 เดือน ที่จะต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งฟ้องให้อัยการพิจารณาฟ้องต่อศาลต่อไป

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ด้าน นางสมบุญ แม่ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ปกติครอบครัวมีอาชีพรับจ้าง ทำไร่ทำนา มีลูกทั้งหมด 3 คน นายอุเทน เป็นลูกชายคนโต ส่วนลูกสาวอีก 2 คน ต่างแยกย้ายไปทำงานรับจ้าง ก่อนนี้ลูกชายได้ไปแต่งงานอยู่กินกับภรรยาได้ประมาณ 5 ปี จนมีลูกชาย 1 คน รักกันดีไปไหนไปด้วยกัน ไม่คิดจะเกิดปัญหา จนกระทั่งระยะหลังกลับมาอยู่บ้านเกิดปัญหาทะเลาะกัน คาดว่าอาจมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย และปัญหาส่วนตัว แต่ลูกชายก็ไม่เคยระบายให้แม่รับรู้คิดว่าจะไม่รุนแรงขนาดนี้
ภาพจากอีจัน

ทั้งนี้ลูกชายได้กลับมาอยู่บ้านได้ประมาณ 2 เดือน จากนั้นทราบว่าพยายามไปขอคืนดีกับภรรยา แต่ไม่สำเร็จ เกิดความเครียดและโมโห จนก่อเหตุขึ้นทั้งที่ปกติลูกชาย ไม่ใช่คนโมโหร้าย ทำงานดูแลครอบครัว ดิ้นรนมาตลอด แต่ก็ดื่มเหล้าบ้างตามประสา ส่วนยาเสพติดยืนยันไม่เคยมีประวัติ เชื่อว่าทำไปเพราะรักภรรยากับลูกมาก เป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ ตนรู้สึกเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น และขอโทษแทนลูกชาย รวมถึงอยากให้ทั้ง 2 หายดี และกลับมาดูแลกัน