ทำความรู้จัก “ก้อง กาแฟ” หนุ่มอินดี้ผู้ยกระดับกาแฟไทย สู่สากล

ทำความรู้จัก ก้อง สุพจน์ กรประสิทธิ์วัฒน์ หรือ “ก้อง กาแฟ” หนุ่มอินดี้ ที่ผันตัวเองเป็นนักพัฒนากาแฟไทย สู่สากล

ถ้าพูดถึงเรื่อง “กาแฟ” จันเชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่คลั่งไคล้ และหลงใหลทั้งรส ทั้งกลิ่นของกาแฟ

วันนี้จันจะพามารู้จักกับ อีกหนึ่งคนที่ทำให้จัน เข้าถึงและสัมผัส กาแฟไทยได้ด้วยจิตวิญญาณ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจันมีโอกาสไปเที่ยวที่ จังหวัดระนองและได้แวะไปที่ Kong coffee (ก้อง กาแฟ) วิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์กาแฟคั่วมือ หรือ “ก้อง วัลเลย์” ตั้งอยู่ในหุบเขาบ้านบกราย ต.บางน้ำจืด อ.กระบุ จ.ระนอง ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและเรียนรู้ กาแฟพันธุ์ไทย ที่กำลังจะมีคุณภาพเทียบเท่ากาแฟสากล

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

จันมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณก้อง สุพจน์ กรประสิทธิ์วัฒน์ ประธานผู้ก่อตั้ง “ก้อง วัลเลย์” แบ็กแพ็คเกอร์ท่องเที่ยว ที่ผันตัวมาปักหลักที่บ้านเกิด จ.ระนอง และแน่นอนว่าจากคนที่เป็นคอกาแฟอยู่แล้ว และเขาได้เห็นเกษตรกรที่บ้านเกิด ปลูกกาแฟหลายร้อยไร่ แต่ในหัวกลับมีคำถามว่า ชาวสวนกาแฟที่มีสวนหลายสิบไร่ ทำไมยังซื้อกาแฟแบบซองดื่ม? ไม่ดื่มกาแฟที่ตัวเองปลูก

ภาพจากอีจัน

อีกทั้งราคากาแฟที่พวกเขาปลูกสูงลิ่ว เป็นเหตุผลที่ผู้ชายคนนี้ใช้เวลาศึกษากว่า 5 ปี เพื่อพัฒนา “กาแฟโรบัสต้าไทย” ให้เทียบเท่ากาแฟสากล

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

หลายนาทีที่จันได้ฟังชายคนนี้พูดถึงกาแฟที่อยู่ตรงหน้า เขาอธิบายและพูดด้วยจิตวิญญาณของคนที่อยู่กับกาแฟมานาน คุณก้องบอกกับจันว่า “โรบัสต้า" ถือเป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง แค่ใช้เวลาอยู่บนต้นนานหลายเดือน ผลไม้ที่ดีต้องมีรสเปรี้ยวและผลไม้ที่สุกเต็มที่จะคั้นน้ำได้เยอะ น้ำที่คั้นได้จะมีรสชาติดี ระหว่างที่เขาอธิบายแต่มือก็บรรจงนำเมล็ดกาแฟบนกระทะ ที่ทุกเมล็ดเขาต้องคั่วมือ ค่อยๆคนอย่างใจเย็น ทำให้จันรับรู้ของกลิ่นกาแฟที่อบอวลไปทั่ว

ภาพจากอีจัน

คุณก้องบอกอีกว่าการคั่วกาแฟไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมาย ไม่มีอะไรซับซ้อน มีแค่ความใส่ใจที่ต้องคอยดูเมล็ดกาแฟที่อยู่บนกระทะให้ได้ตามต้องการ เพื่อจะนำกาแฟมาบดและดริป

โดยขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญ แต่คุณก้องบอกว่าไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องชงราคาหลักหมื่นหลักแสน หากเพียงแค่เรามีเมล็ดกาแฟที่ดี และความตั้งใจกาแฟในแก้วก็จะออกมารสชาติดีแน่นอน

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

และแล้วเวลาที่จันรอคอยก็มาถึง คุณก้องส่งแก้วกาแฟที่เขาพิถีพิถันชงให้จันลิ้มรสชาติเฉพาะตัวของมัน ความเปรี้ยวนิดๆ แล้วเปลี่ยนเป็นรสหวานในปาก จันรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก กลิ่นและรสของกาแฟ “โรบัสต้า” ยังติดอยู่ในความรู้สึกของจันอยู่เลย

ภาพจากอีจัน

หลังจากจันได้จิบกาแฟแก้วนั้น ทำให้จันรู้สึกว่า ความจริงกับความฝัน อยู่ต่างกันมาก หากวันนี้คุณได้แค่ฝันแต่ไม่ลงมือทำ ฝันก็ยังเป็นแค่ฝัน แต่หากคุณฝันและเริ่มทำมัน ความฝันกับความจริงก็จะอยู่ไม่ไกลกัน

ภาพจากอีจัน

สุดท้ายจันอยากชวนคอกาแฟคนไหน ที่มีโอกาสผ่านไปที่จังหวัดระนอง อย่าลืมแวะไป ลิ้มรส และเรียนรู้ความสุข และความจริงของกาแฟแบบจันนะคะ แล้วคุณจะรักกาแฟขึ้นอีกหลายเท่าแบบจัน