3 ธ.ค. 62 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการจับกุม
1. นายศุภฤกษ์ กรุดบาง อายุ 30 ปี
2. นายวินัย ฟักเฟื่อง อายุ 27 ปี
3. นายอนุกูล หรั่งแร่ อายุ 30 ปี
4. นายวุฒิชัย ศรีสุวอ อายุ 33 ปี
ภาพจากอีจัน
ข้อหาร่วมฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่า ทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ซึ่งยังมีกลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับที่หลบหนีอีกจำนวน 2 ราย เป็นหญิงชาวลาว 1 ราย ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมสั่งการและเป็นชาวไทย 1 รายซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีรับโอนเงิน/ถอนเงิน
ภาพจากอีจัน
การจับกุมสืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.1 ได้ทำการสืบสวนจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพที่มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดปลอมเฟซบุ๊กและไลน์หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน และได้มีการจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวไปแล้วนั้น ต่อมาได้รับการประสานข้อมูลจาก สภ.รัตนาธิเบศร์ และ สน.ประเวศ ว่า เมื่อวันที่ 21 และ 24 ตุลาคม 2562 มีผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพไปหลอกลวงให้โอนเงิน ซึ่งมีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดในลักษณะคล้ายกัน
ภาพจากอีจัน
จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนพบว่ากลุ่มคนร้ายใช้วิธีการสร้างบัญชีเฟซบุ๊กและไลน์ปลอมของเหยื่อที่มีฐานะดี มีชื่อเสียง จากนั้นจึงติดต่อหลอกลวงบุคคลที่เหยื่อรู้จักให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร เมื่อมีผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่เตรียมไว้ จากนั้นคนร้ายก็ถอนเงินสดออกจากบัญชีธนาคาร และปิดบังอำพรางเส้นทางการเงิน โดยโอนเงินและฝากเงินที่ได้จากการกระทำความผิดไปยังบัญชีอื่นๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกลุ่มแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ (ชายแดนลาว)
ภาพจากอีจัน
ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวทำให้สืบทราบว่ากลุ่มคนร้ายได้ร่วมกันกระทำความผิดจำนวนหลายคน โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน รวมถึงมีการประสานงานกัน เพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้เสียหายและเพื่อให้ยากต่อการสืบสวนติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกลุ่มคนร้ายนี้ มีหญิงชาวลาวร่วมกับพวกหลอกลวงผู้เสียหายอยู่ประเทศลาวและใช้นายศุภฤกษ์ เป็นผู้จัดหาบัญชี (สาวประเภท 2) รับเงินจากผู้เสียหาย และ ร่วมกับนายวินัย (สาวประเภท 2) และนายอนุกูล (สาวประเภท 2) ทำหน้าที่ ถอนเงิน โอนเงิน ส่วนนายวุฒิชัย ทำหน้าที่ ถอนเงิน โอนเงิน ของผู้เสียหายไปยังบัญชีอื่นเพื่อปกปิดอำพรางเส้นทางการเงิน
ภาพจากอีจัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนและขออนุมัติหมายจับจนจับกุมผู้ต้องหาได้ ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้เสียหายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบ จำนวน 4 ราย เข้าแจ้งความในหลายท้องที่ ดังนี้
1. สน.ประเวศ 1 ราย ความเสียหาย 1,000,000 บาท แจ้งความเมื่อ 24 ตุลาคม 2562
2. สน.คันนายาว 1 ราย ความเสียหาย 400,000 บาท แจ้งความเมื่อ 8 ตุลาคม 2562
3. สน.ทองหล่อ 1 ราย ความเสียหาย 300,000 บาท แจ้งความเมื่อ 12 ตุลาคม 2562
4. สภ.รัตนาธิเบศร์ 1 ราย ความเสียหาย 2,500,000 บาท แจ้งความเมื่อ 21 ตุลาคม 2562
รวมมูลค่าความเสียหาย 4,200,000 บาท