ตำรวจทางหลวงขอแจง เหตุปะทะคารมคนขับรถกระบะ พร้อมปัด เจาะยางรถจนระเบิด

ตำรวจทางหลวงขอแจง เหตุปะทะคารมกับคนขับรถกระบะขนพริก พร้อมยันล้อรถระเบิดเป็นอุบัติเหตุ

จากกรณีเกิดเหตุปะทะอารมณ์กันขึ้นระหว่างคนขับรถกระบะขนพริก กับตำรวจทางหลวงประจำป้อมจุดตรวจพรุพ้อ ถนนสายเอเชีย อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ที่มีคลิปเผยแพร่อยู่ในโซเชียล ณ ขณะนี้ พร้อมเกิดประเด็นคาใจว่า ตำรวจก่อเหตุกรีดยางรถยนต์ของประชาชนจนระเบิดจริงไหม ?

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ล่าสุดในวันนี้ (3 ธ.ค.62) ร.ต.อ.ชัยรัตน์ หนูละออง รองสว.สทล.3กก.7 บก.ตำรวจทางหลวงซึ่งทำหน้าที่ร้อยเวรในวันเกิดเหตุ ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุการณ์เริ่มขึ้นโดยเรียกตรวจค้นรถกระบะคันดังกล่าว ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทางหลวงเพื่อตรวจสอบรถเป้าหมายที่อาจจะซุกซ่อนสิ่งผิดกฎหมายโดยเฉพาะยาเสพติด ตามที่ได้รับรายงานว่าจะมีการซุกซ่อนมากับรถขนสินค้า แต่การตรวจค้นอาจเสียเวลา ทำให้คนขับไม่พอใจและไม่เข้าใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และเกิดการพูดตอบโต้กันขึ้น

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ซึ่งเหตุการณ์นี้ทางสถานีตำรวจทางหลวงทางหลวง3 ได้มีการตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ทั้งตำรวจคู่กรณีและตำรวจทางหลวงทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ขณะเกิดเหตุ ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุหรือไม่

โดยเฉพาะเรื่องยางระเบิดซึ่งเป็นข้อสงสัยว่าถูกตำรวจเจาะหรือไม่ ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่า ตำรวจนายดังกล่าวปฏิเสธเจาะยางรถ พร้อมแจ้งว่าเป็นอุบัติเหตุยางระเบิด ขณะที่ตำรวจทางหลวงนายนี้ก้มดูใต้ท้องรถพอดี ส่วนอาการของตำรวจทางหลวงนายนี้มีอาการแน่นหน้าอกและบาดเจ็บที่แขนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และขณะนี้อาการปลอดภัยและออกจากโรงพยาบาลแล้ว

ภาพจากอีจัน
ร.ต.อ.ชัยรัตน์ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุตำรวจทางหลวงได้ให้การช่วยเหลือรถกระบะขนพริกคันนี้อย่างดีที่สุด โดยใช้เวลาไม่เกิน10 นาทีก็นำยางอะไหล่มาเปลี่ยนให้ 2 เส้นเป็นเงิน 8,700 บาท และสามารถขับไปส่งพริกได้ทันเวลา และได้มีการไปพูดคุยกับเถ้าแก่เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและเข้าใจตรงกัน ซึ่งพริกก็ไม่ได้เสียหาย โดยทางตำรวจและคนขับรพกระบะ ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับคนขับเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จนเข้าใจและพอใจกันทั้งสองฝ่าย ทำให้เหตุการณ์จบลงด้วยดี คนขับรถกระบะขนพริกเข้าใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และพอใจการช่วยเหลือของตำรวจทางหลวงที่เป็นไปด้วยความรวดเร็วจนสามารถส่งพริกได้ทันเวลาไม่เสียหาย ร.ต.อ.ชัยรัตน์ ยังบอกอีกว่า ในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทางหลวงในขณะเกิดเหตุตามที่ปรากฏในคลิปนั้น หากพบว่าผลการสอบสวนมีความผิดก็จะดำเนินการทางวินัยโดยไม่ละเว้น