ปลูกผักริมน้ำโขง สร้างรายได้ช่วงน้ำลด

ริมแม่น้ำโขง บ้านนาสนาม ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี หลังจากหมดฤดูทำนาแล้วชาวบ้านในพื้นที่นี้ก็ได้ทำอาชีพเสริมด้วยการปลูกผักขาย ซึ่งผักบริเวณนี้ได้ให้ผลผลิตที่สะอาด สวยงาม ปราศจากสารเคมี ราคาไม่แพง รสชาติอร่อย สร้างอาชีพและความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ขัดสนให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ มากว่า 50 ปี

นางเตือน รักษ์ไทย อายุ 46 ปี เกษตรกรปลูกผักริมโขงบ้านนาสนาม ได้เผยว่า ตนได้ปลูกผักบริเวณริมแม่น้ำโขงแห่งนี้มาร่วม 20 ปีแล้ว โดยได้ปลูกผักกวางตุ้ง ผักสลัด ผักชีหอม ขึ้นฉ่าย กระเทียมและหัวหอม เมื่อก่อนมีพื้นที่ในการปลูกมากกว่านี้แต่ช่วงหลัง ตลิ่งทรุดตัวพังลง ทำให้เนื้อที่ในการปลูกก็ลดน้อยลงไปด้วย ซึ่งช่วงที่เริ่มปลูกอย่างจริงจังก็คือช่วงที่น้ำโขงลดลงของทุกปี จะอยู่ในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. ซึ่งจะทำการขุดดิน แบ่งแยกเป็นแปลงๆ จากนั้นก็นำเมล็ดผักมาหว่านในแปลง พอเริ่มเติบโตเป็นใบขึ้น ถึงนำมาลงปลูกในแปลงที่เตรียมไว้ ไม่เกินสองเดือนก็สามารถเก็บผลผลิตแล้วนำไปขายได้ โดยรายได้จากการขายผักในช่วงที่ผ่านมาสามารถส่งลูกเรียนจบจนได้เป็นครูในปัจจุบัน ซึ่งผักที่ตนขายจะมัดขายเป็นกำ ขายกำละ 10 บาท และ 3 กำ 20 บาท

ด้าน นายปรจน นุชนิกรอายุ 68 ปี เกษตรกรในแปลงติดกัน กล่าวว่า ในส่วนของตนนั้น ได้ปลูกพืชริมโขงมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2512 หรือ 50 ปี มาแล้ว ตอนนั้นก็ปลูกผักเกือบทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น ผักกาด หัวหอม กระเทียม มะเขือเทศ มะเขือเปราะ คะน้า เมื่อก่อนนั้นพื้นที่ในการปลูกผักเรียบ สามารถปลูกบริเวณริมน้ำได้อย่างสบาย ไม่ลาดชันเหมือนในปัจจุบัน ช่วง 1 – 2 ปีหลังบริเวณนี้เกินดินทรุดตัวบ่อย จึงทำให้พื้นที่ในการปลูกลดลงเรื่อยๆ

นายปรจน ยังกล่าวอีกว่า พื้นที่ริมโขงแห่งนี้ จะปลูกผักอะไรก็ได้ผลผลิตที่สวยงาม ปลูกง่าย ไม่ต้องดูแลยาก บางทีได้ทำเมล็ดผลหลุดร่วงลงไปในพื้นดินในช่วงที่เก็บเกี่ยวผลผลิต พอหลังจากที่น้ำโขงได้ลดลงก็ได้เกิดเป็นต้นงอกเงยขึ้นมาเอง ถ้าไปปลูกตามท้องไร่ท้องนาก็จะเจอปัญหาหลายอย่าง ทั้งเรื่องการขาดแคลนน้ำ เรื่องความไม่อุดมสมบูรณ์ของดินบ้าง การปลูกพืชริมโขงไม่ต้องใช้การดูแลมาก 3-4 วัน ถึงจะรดน้ำที ดินในบริเวณนี้ชุ่มชื้น เป็นทรายบนดินเหนียว โปร่งไม่แน่น จนเกินไป

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถ ชมวิถีชีวิตชาวบ้าน จับจ่ายซื้อผัก หรือสัมผัสบรรยากาศ เย็นสบายริมแม่น้ำโขง ได้ที่ บ้านนาสนาม ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี