มนต์สิทธิ์ร้องตรวจสอบกรรมการนิติฯคอนโด

มนสิทธิ์ คำสร้อย หอบหลักฐานแจ้งความ ให้ตรวจสอบกรรมการนิติฯคอนโด สงสัยเก็บเงินค่าส่วนกลางไม่โปร่งใส

วันนี้ (11 ธ.ค. 62) นายมนต์สิทธิ์ คำสร้อย นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง พร้อมด้วย ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.สน.บางซื่อ กรณีที่นายมนต์สิทธิ์ ได้ซื้อคอนโดมิเนียมย่านอิทามระ เมื่อปี 2548 โดยมีกลุ่มบุคคล 2-3 ราย อ้างว่าเป็นกรรมการของนิติบุคคลคอนโดดังกล่าว แล้วเรียกเก็บเงินค่าส่วนกลางเป็นรายเดือน เดือนละประมาณ 1,000 กว่าบาท จนถึงปัจจุบัน โดยไม่มีการแสดงบัญชีรายรับ-รายจ่าย อีกทั้งยังไม่มีการจัดประชุมแต่อย่างใด ทำให้นายมนต์สิทธิ์และลูกบ้านเคลือบแคลงสงสัยว่าอาจมีความไม่โปร่งใส จึงรวบรวมพยานหลักฐานเข้าร้องทุกข์ เพื่อขอเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ สืบสวนสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงจากพยานเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลนี้ หากพบการกระทำความผิดก็ขอมอบคดีนี้ให้กับ พงส. สน.บางซื่อ ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ร่วมกันกระทำความผิด

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
โดย ทนายสงกานต์ กล่าวว่า จากเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา ได้ไปขอคัดสำเนาการจดทะเบียนของคอนโดมิเนียมแห่งนี้ ที่สำนักงานที่ดินห้วยขวาง พบว่ามีการจดทะเบียนของอาคารชุดถูกต้อง และมีการจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุดมาก่อนแล้ว แต่หลังปี 2554 ปรากฏว่าไม่มีการจดทะเบียนนิติบุคคลใหม่ หลังชุดเดิมหมดวาระและลาออก แต่มีการแต่งตั้งรักษาการแทนหัวหน้านิติฯ โดยเป็นบุคคลที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดดังกล่าวแต่งตั้งตนเองขึ้นมาแทน และมีทีมนิติฯ ยังคงทำงานมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน แต่ก็ไม่เคยมีการจัดประชุมลูกบ้าน ไม่มีการแสดงงบดุลรายรับ-รายจ่าย
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ด้าน นายมนสิทธิ์ กล่าวว่า ล่าสุดมีการประกาศขึ้นค่าส่วนกลางจากเดิมตารางเมตรละ 18 บาท เป็น 22 บาท โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า และไม่มีการเรียกลูกบ้านประชุมชี้แจงแต่อย่างใด และก่อนหน้านี้ลูกบ้านเคยติดประกาศเพื่อขอประชุมร่วมกันเอง แต่ปรากฏว่าใบประกาศกลับถูกฉีกออกไป นอกจากนี้นายมนสิทธิ์ ยังเคยเข้าไปถามกับนิติฯ โดยตรงหลายครั้งแต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงไม่ยอมพูดคุย จนเคยมีการกระทบกระทั่งกันมาแล้ว

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ทั้งนี้เมื่อคืนที่ผ่านมามี 1 ใน 4 นิติฯ ได้มีการเก็บกระเป๋าใบใหญ่ 2-3 ใบออกไปจากคอนโด จึงอยากให้ทางตำรวจตรวจสอบจึงเกรงว่าจะเป็นการหลบหนีความผิดหรือไม่

ทนายสงกรานต์ กล่าวต่อว่า หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการเรียกเก็บเงินโดยทุจริตจะเข้าข่ายยักยอกทรัพย์ รวมถึงหากฝ่ายนิติบุคคลนี้ไม่มีการจดทะเบียนจัดตั้งอย่างถูกต้อง จะเข้าข่ายหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชนซึ่งเป็นคดีอาญา

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
โดยหลังจากนี้ทางตำรวจ สน.บางซื่อ จะเรียกนิติบุคคลของคอนโดดังกล่าวเข้ามาชี้แจงรายละเอียด