เตือนผู้หญิง ปวดท้องน้อยบ่อยๆ ระวังฝีหนองในรังไข่!

แพทย์โพสต์กรณีศึกษา สาววัย 41 ปี ปวดท้องน้อย ซื้อยากินเอง ผงะ! พบเป็นฝีหนองในรังไข่ ต้องผ่าตัดถึง 3 ครั้ง!

วันนี้ (12 ธ.ค. 62) เวลา 10.00 น. มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “Arak Wongworachat” ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กของ
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช โพสต์เรื่องราวของ
หญิงรายหนึ่ง อายุ 41 ปี ที่มีอาการเป็นไข้ ปวดท้องน้อย และมีตกขาวมาประมาณ 3 เดือน ซื้อยากินเอง หาหมอบ้างบางครั้ง ได้ยาฆ่าเชื้อมากิน กินบ้างหยุดบ้างเมื่ออาการดีขึ้น แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นจนกระทั่งต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน แพทย์ตรวจแล้วมีอาการเจ็บหน้าท้องมาก เลยสันนิษฐานว่า
น่าจะติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน และส่งตัวมาที่โรงพยาบาลสิชล แพทย์ที่โรงพยาบาลสิชลตรวจครั้งแรกวินิจฉัยพบว่าผู้ป่วยติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานจริงๆ จึงตัดสินใจให้ยาฆ่าเชื้อ และต้องรอดูอาการต่อไป

ภาพจากอีจัน

หลังจากแพทย์ให้ยา 7 วัน คนไข้มีไข้ต่ำๆ และผลอัลตราซาวด์เหมือนมีน้ำอยู่ในอุ้งเชิงกราน แพทย์เลยตัดสินใจผ่าตัดเปิดช่องท้อง พบมีหนองในท้องน้อย และเนื้อเยื่อรอบๆ เปื่อยยุ้ย ไม่สามารถแยกอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานได้ จะตัดรังไข่ หรือมดลูกออก ก็ทำไม่ได้ ทำได้แค่ทำความสะอาดระบายหนองออกให้เยอะที่สุด แล้วต่อท่อระบายหนองเอาไว้ และให้ย่าฆ่าเชื้ออีก 14 วัน ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นตามลำดับ หลังจากนั้นพบว่าท่อที่ระบายหนองที่ผ่าตัดครั้งแรกไม่ยอมปิด มีหนองซึมตลอดเวลา ทีมแพทย์จึงวางแผนรักษาอีกครั้ง

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

หลังจากนั้นมีการผ่าตัดครั้งที่ 2 เมื่อเปิดช่องท้องก็ยังพบหนองอยู่ แต่ทำได้แค่ทำความสะอาด ระบายหนองออก และพบว่ามีเชื้อดื้อยา เลยต้องปรับยาสำหรับเชื้อที่ดื้อยาพบได้น้อย และยามีราคาแพงมาก คนไข้อาการดีขึ้นจึงให้ยากับไปกินต่อที่บ้าน แต่คนไข้ก็ยังอาการปวดท้องน้อยตลอดเวลา

ภาพจากอีจัน

ทีมแพทย์จึงตัดสินใจทำการผ่าตัดครั้งที่ 3 ซึ่งการผ่าตัดครั้งนี้ประสบความสำเร็จ สามารถเลาะและตัดเอารังไข่ ปีกมดลูก เนื้อเยื่อ ข้างที่มีการอักเสบรอบๆ ที่เป็นหนองออกมาได้ เหลือรังไข่อีกข้างที่ยังปกติดีอยู่ การผ่าตัดต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากเพื่อไม่ให้ตัดโดนอวัยวะส่วนอื่น

ภาพจากอีจัน

หลังจากตัดก้อนออกมาแล้ว ผ่าก้อนรังไข่ออกเป็นซีก พบหนองฝังอยู่เนื้อรังไข่เต็มไปหมด ซึ่งรังไข่ปกติขนาด 2 ซม.แต่ผู้ป่วยรายนี้โตถึง10 ซม. มดลูกที่ตัดออกมาก็มีขนาดโตกว่าปกติกว่าเท่าตัว ทีมแพทย์ที่ทำการรักษา หวังจะให้อาการของผู้ป่วยรายนี้ดีขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในการรักษาทั้งหมดกว่า 5 แสนบาท แต่โชคดีที่ผู้ป่วยรายนี้ใช้สิทธิ์บัตรทอง จึงไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายใดๆ

ซึ่งเคสดังกล่าวเป็นเคสควรนำเผยแพร่เป็นวิทยาทาน ให้ผู้หญิงอย่างเราๆหมั่นตรวจสุขภาพ และอย่าละเลยอาการเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ