วันนี้ 17 ธ.ค.62 เวลา 10.00 น. วัดศรีสว่าง บ้านศรีสุข ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นที่ตั้งสวดอภิธรรมศพ นางรัศมี มุลิจันทร์ อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านตาย ภายในบ้าน ม.19 ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ที่ถูกฆ่ารัดคอตายในบ้านพักตัวเองและพบศพเมื่อเย็นวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมานั้น
นายจักกฤษ์ เชือกพรม อายุ 25 ปี บุตรชายของผู้ตาย ได้นำเสื้อผ้าของมารดามาไว้ที่ข้างโลงศพ เพื่อเตรียมเผาไปพร้อมศพมารดาในช่วงบ่ายวันนี้
นายจักกฤษ์ เชือกพรมหรือน้องแต๊ก เล่าว่า ญาติพี่น้องแจ้งข่าวมารดาถูกฆ่าตาย ตั้งแต่คืนวันที่ 15 ธันวาคม เมื่อทราบข่าวก็รีบเดินทางมาดูศพมารดาและรับศพมารดามาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด เมื่อรู้ว่าคนที่ฆ่าแม่คือฆาตกรต่อเนื่อง ก็รู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก เพราะกลัวว่าจะไปฆ่าคนอื่นอีก ผมว่าประเทศไทยควรจะมีการปรับปรุงกฎหมาย ปรับปรุงขบวนการทางศาล ในเรื่องการพิจารณาโทษ หรือลดโทษของนักโทษที่ก่อเหตุรุนแรง เพราะถ้าไม่มีการแก้ไข นักโทษได้รับการอภัยโทษ ออกจากคุกมาก็จะมาก่อเหตุซ้ำอีก
ซึ่งก็ต้องมีคนตายอีก จะมีคนเดือดร้อนอีกจำนวนมากกับการกระทำของนักโทษที่ก่อเหตุรุนแรงเช่นนี้ คนที่ก่อเหตุฆ่าคนตายมาอย่างต่อเนื่องจนมาถึงแม่ของผม ผมขอให้แผมเป็นเหยื่อรายสุดท้ายที่ตายจากน้ำมือของฆาตกรรายนี้ ผมว่าไม่น่าจะปล่อยให้รอดออกมาก่อเหตุได้อีก เพราะเป็นบุคคลอันตราย ควรได้รับโทษประหารชีวิตเท่านั้น
น้องแต๊ก ยังกล่าวต่ออีกว่า มีพี่น้องที่มีมารดาคนเดียวกัน 2 คน คือตัวเองกับพี่ชาย แต่เป็นลูกคนละพ่อ ที่ผ่านมาแม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็โทรศัพท์ติดต่อกับแม่มาตลอด โดยเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2562 มารดาโทรหาพร้อมทั้งขอเลขบัตรประชาชน โดยแม่บอกว่า มีแฟนใหม่และแฟนใหม่จะออกรถเก๋งให้ แม่เกรงว่าเครดิตแม่ไม่ผ่านจึงขอเลขบัตรประชาชนผมไปตรวจสอบเครดิต และแม่บอกอีกว่า แฟนใหม่ทำงานเป็นทนายความ เดินทางว่าความและให้คำปรึกษาทางกฎหมายทั่วประเทศ และจะมาอยู่ด้วยที่บ้าน ต่อมาวันที่ 14 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันก่อนที่แม่จะถูกฆ่าตาย ได้ทักแชทเฟซบุ๊กคุยกับแม่ และคุยกันตามปกติ ซึ่งแม่ก็ไม่ได้มีคำพูดที่เป็นพิรุธหรือบ่นอะไรให้ฟัง ซึ่งเป็นการพูดคุยครั้งสุดท้ายก่อนที่แม่จะถูกฆ่าตาย