ปคม. จับขบวนการขนชาวโรฮิงญา ผ่านทางรถไฟส่งมาเลย์

ปคม. จับเครือข่ายลักลอบพาชาวโรฮิงญา ส่งมาเลเซีย ได้ค่าตอบแทนหัวละ 12,000 บาท

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 62 เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. นำกำลังเข้าจับกุม นายชรินทร์ หรือริน ชื่นชม อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง

ในความผิดฐาน “ร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะ หรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าว ที่เข้า เมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้คนต่างด้าวนั้น พ้นจากการจับกุม และร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และสมคบโดยการตกลงกัน ตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และได้ลงมือ การกระทำความผิดตาม ที่ได้สมคบกันและความผิดฐาน มีส่วนร่วมองค์การอาชญากรรมข้ามชาติ และความผิดฐานกระทำ หรือละเว้นการกระทำอันเป็น การทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็กและความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย”

ภาพจากอีจัน
โดยจับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.บ้านไร่ อ.เมือง ราชบุรี ทั้งนี้ ผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์รายใหญ่ ลักลอบนำพาชาวโรฮิงญา จากรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา เข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย เพื่อนำตัวตัวส่งไปยังประเทศมาเลเซีย โดยได้รับค่าตอบแทนหัวละ 12,000 บาท เชื่อว่าทำมาแล้วมากกว่า 20 ครั้ง ครั้งละ 10-15 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งหนึ่งในขบวนการดังกล่าวมีอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ร่วมกระทำความผิดด้วย
ภาพจากอีจัน

สำหรับการจับกุมสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 17- 18 ม.ค. 61 ผู้ต้องหาได้นำพาชาวโรฮิงญา 14 คน เข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.นครปฐม เพื่อรอเวลาที่เหมาะสม จากนั้น นายชรินทร์ ได้ไปซื้อตั๋วรถไฟโดยใช้ชื่อบุคคลอื่น เพื่อให้ชาวโรฮิงญา ที่ลักลอบเข้ามา ขึ้นรถไฟเพื่อไปส่งชายแดนประเทศมาเลเซีย โดยมีผู้ต้องหาอีก 2 คน เป็นผู้พาไป

ภาพจากอีจัน

ต่อมาเมื่อถึงสถานีรถไฟทุ่งสง ชาวโรฮิงญา ทั้งหมดได้ถูกเจ้าหน้าตำรวจจับกุมตัว พร้อมผู้ต้องหาอีก 2 ราย จากการสัมภาษณ์คัดแยกเหยื่อพบว่าเข้าข่ายเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ ถูกหลอกจะพาไปทำงาน โดยไม่รู้ว่าจะมีงานให้ทำจริงหรือไม่ และปล่อยให้อยู่อย่างอดอยาก ไม่มีอาหาร มีเพียงน้ำเพียงเล็กน้อยประทังชีพเท่านั้น

ภาพจากอีจัน

และจากการขยายผลพบว่า นายชรินทร์ เป็นระดับหัวหน้าขบวนการ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ซึ่งมีนายชรินทร์รวมอยู่ด้วย ซึ่งหลังจากทราบข่าวการจับกุม นายชรินทร์ ได้หลบหนีเรื่อยมา กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว

เบื้องต้น นายชรินทร์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ชุดสืบสวน กก.5 ปคม. จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป