จากใจชัยวัฒน์ ในวันที่รู้ข่าวอัยการยกฟ้องคดีอุ้ม ฆ่าเผา บิลลี่

จากใจชัยวัฒน์ ในวันที่ตัวอยู่ปัตตานี แล้วรู้ข่าวอัยการยกฟ้องคดีอุ้มฆ่า เผาบิลลี่

หลัง อัยการส่งเอกสารถึงดีเอสไอ สั่งไม่ฟ้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวกรวม 4 คน ในคดีฆ่าบิลลี่
เหลือฟ้องเพียงข้อหา 157 ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีปล่อยตัวบิลลี่ ในคดีลักของป่า หรือน้ำผึ้งป่าจำนวน 5 ขวด

นายชัยวัฒน์ ได้ออกมาเปิดใจว่า

หลังจากฝุ่นตลบ ไม่ว่าเรื่องไหนต่อเรื่องไหน มุ่งตรงมาที่ผมคนเดียว
เรื่องงานในหน้าที่ ก็ทำไม่ได้หยุด หลังน้ำท่วมอุบล น้ำลด ฝุ่นตลบด้วยดีเอสไอชี้เป้าหมายมาที่ผมกับลูกน้องว่าเป็นคนกลุ่มสุดท้ายที่อยู่กับบิลลี่ จนออกหมายจับ เป็นพวกเราจริงๆ
ดีเอสไอบรรยายถึงวิธีการฆ่า ตัดอวัยวะ แยกชิ้นส่วนเผาในถัง

ภาพจากอีจัน
และสื่อมวลชน นำเสนอจน จนบอกได้เลยว่า “ไม่มีที่ยืน”
ภาพจากอีจัน
ต่อมาทีคำสั่งไปปัตตานี “โอ้ยยากต่อชีวิตมาก เพราะเราทำงานทำคดีดังๆ คดีใหญ่ทุกคดี ที่เกิดขึ้นคดีใหญ่ๆ “ ไปปัตตานี ไปเป็นเป้าหมาย ชี้ชะตาชีวิต สามจังหวัดชายแดนใต้ ถ้าผมตาย ตายจริงคงเหมาว่า “เรื่องความมั่นคง สามจังหวัดชายแดน” แน่นอน แต่เมื่อมารายงานตัวทำงาน ก็สู้ต่อโชคชะตา ไม่ว่าจะดีหรือเลว ขอทำงาน สองเดือน ผ่านไป ถือว่าทำได้ดี และไปทำงานอย่างสม่ำเสมอ สี่ห้าเดือนผ่านไป ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเกือบหมด ทั้งหน้าที่การงาน ทั้งชีวิตครอบครัว ทั้งพี่น้องเพื่อนฝูง ทั้งการใช้ชีวิต ที่ต้องระวังตัวมากกว่าเดิม ชีวิตที่หดหู่มากๆ คือ การเดินทาง พบปะผู้คน แย่แบบนี้ – การเดินทาง มีแต่คนมอง มองด้วยความสงสัย สงสัยว่าใช่คนเดียวในข่าวหรือไม่ มองในแง่ลบ สายตามองเราเป็นผู้ร้าย มองในแง่บวกพร้อมให้กำลังใจ

– การหาที่พัก ผมเคยไปพักยื่นบัตร ปปช เมื่อ จนท โรงแรมเห็น
แล้วมองแล้วมองอีก ผมรู้สึกแย่มาก เหมือนเราแทบไม่มีที่ยืน

– แย่ที่สุดคือ ครอบครัว แฟนเป็นครู ลูกยังเรียน ทุกคนได้รับคำถามว่า มันเป็นยังไง จริงรึเปล่า ? คือคำถามแค่คิดจะตอบว่า ไม่หรือใช่ หรือ ไม่ทราบ หรือ ไม่รู้ ผมเข้าใจว่า ครอบครัวผม ยังพูดออกมายาก เพราะสังคมตัดสินไปแล้ว ว่าผมเป็นคนทำ

ภาพจากอีจัน
หลายเดือนต้องขึ้นลง และลูกน้องทุกคนด้วย ทุกคนมีค่าใช้จ่าย เราจะเบิกจากไหน เราจะเอาเงินจากไหน พวกเราทุกคนไม่มีเงินเก็บ ที่จะมาสำรองอนาคต สุดท้ายก็ต้องดิ้น ดิ้นรนต่อไป แต่พวกเรายังมีโชค มีบุญที่แผ่นดินยังส่งคนใจบุญ มารับทำคดีให้ ทำให้ฟรี รวมถึงนำเงินมาประกันตัวให้ ถึง 3,200,000 บาท (สามล้านสองแสน) วันนี้ เป็นวันตรุษจีน ได้รับข่าวดี ถือว่าเป็นโชคดี เป็นของขวัญ จากบรรพบุรุษ ให้ของขวัญ กับพวกเรา และสุดท้าย คดียังมีอีก คงยังไม่จบ และคงไม่จบง่ายๆ เพราะผมรู้ว่า ผมสู้อยู่กับใคร คนพวกนี้ ไม่เลิกง่ายๆ ถ้าผมยังทำหน้าที่ดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ป่าไม้สัตว์ป่า คนพวกนี้ เสียผลประโยชน์ พวกนี้ คงไม่เลิกง่ายๆ ครับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม