แก๊งแชร์แม่มณีปฏิเสธสู้คดี

ศาลนัดสอบคำให้การแก๊งแชร์แม่มณี ปฏิเสธต่อสู้คดี – นัดตรวจหลักฐาน 9 มี.ค.

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ม.ค. 63 ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.วันทนีย์ หรือ เดียร์ ทิพย์ประเวช อายุ 30 ปี เจ้าของวงแชร์แม่มณี, นายเมธี หรือ บอส ชิณภา อายุ 20 ปี แฟนหนุ่มของน.ส.วันทนีย์, นายปิยะ หรือ เป้ คีรีสุวรรณกุล อายุ 22 ปี, น.ส.พรสวรรค์ หรือ ฝ้าย ภูอินอ้อย อายุ 20 ปี, น.ส.ธวัลรัตน์ ทิพย์ประเวช อายุ 58 ปี มารดา น.ส.วันทนีย์, น.ส.วิไลวรรณ หรือ มิ้น หงษ์ประชาทรัพย์ อายุ 26 ปี, น.ส.นิตยา หรือ โบว์ พินนอก อายุ 28 ปี, นายบริภัทร เข็มรัตน์ อายุ 23 ปี และนายปิยะเศรษฐ์ ธิโสภา อายุ 24 ปี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-9 ในความผิดฐาน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

ภาพจากอีจัน
โดยโจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. – 30 ต.ค. 2562 จำเลยที่ 1, 4 ได้โพสต์เฟซบุ๊กประกาศให้ประชาชนทั่วไปมาร่วมออมเงินหรือร่วมลงทุนกับจำเลยที่ 1, 4 กับพวก โดยจะได้ผลตอบแทนมากกว่าปกติเป็นพิเศษ ซึ่งมีแผนการตลาดหรือรูปแบบการลงทุนจัดแบ่งออกเป็นวงแชร์จำนวนการลงทุนวงละ 1,000 บาท จะได้รับผลตอบแทน 930 บาท ต่อหนึ่งวง เมื่อครบกำหนด 1 เดือน นับแต่วันที่ลงทุนหรือวันที่ฝากเงินมายังบัญชีที่พวกจำเลยแจ้ง โดยผู้ลงทุนจะได้รับเงินที่ลงทุนพร้อมผลตอบแทนกลับไปจำนวนวงแชร์ละ 1,930 บาท 

ต่อมาจำเลยที่ 1, 4 กับพวก ได้เปลี่ยนเป็นการลงทุนระยะสั้น โดยลงทุน 400 บาท ได้รับผลตอบแทน 100 บาท เมื่อครบกำหนด 7 วัน โดยจะได้รับคืนเป็นเงิน 500 บาท, ลงทุน 400 บาท ได้รับผลตอบแทน 150 บาท เมื่อครบกำหนด 12 วัน จะได้รับคืนเป็นเงิน 500 บาท, ลงทุน 150 บาท ได้รับผลตอบแทน 150 บาท เมื่อครบกำหนด 12 วัน จะได้รับคืนเป็นเงิน300 บาท, ลงทุน 150 บาท ได้รับผลตอบแทน 150 บาท เมื่อครบกำหนด 13 วันจะได้รับคืนเป็นเงิน 300 บาท

ภาพจากอีจัน
ซึ่งข้อความดังกล่าวล้วนเป็นความเท็จ เพราะความจริงแล้วจำเลยที่ 1, 4 กับพวก ไม่ได้จัดให้มีการออมเงินหรือร่วมลงทุนโดยได้รับผลตอบแทนมากกว่าปกติดังกล่าวแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นอุบายให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทองจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวงเท่านั้น โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหายรวม 2,533 ราย พวกจำเลยไม่สามารถจ่ายผลประโยชน์ในอัตราดังกล่าวให้แก่ผู้ลงทุนได้ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จ่ายเงินให้กับจำเลยทั้งเก้าไปตามจำนวนเงินของผู้เสียหายแต่ละราย รวม 1,376,215,359.74 บาท
ภาพจากอีจัน
โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดและให้พวกจำเลยทั้งเก้าชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหายทั้ง 2,533 ราย รวม1,376,215,359.74 บาท ด้วย โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้เบิกตัวจำเลยทั้งหมดจากเรือนจำมาสอบคำให้การ ศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้พวกจำเลยฟังจนเข้าใจและสอบถามว่า จะรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่า จำเลยทั้งหมด ให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐาน ทั้งสองฝ่าย วันที่ 9 มี.ค.นี้ เวลา 13.30 น.