ปวีณาช่วยพ้นขุมนรก
เหยื่อจีนเทา ค้ากามข้ามชาติ !!!
วันนี้ (17 ก.พ. 67) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี เผยว่า วานนี้ได้เดินทางไปรับสาวไทย ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก หลังถูกจีนเทาบังคับค้าประเวณีที่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา
โดย น.ส.เอ และ น.ส.บี (นามสมมติ) ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือเข้ามาที่มูลนิธิปวีณาฯ ว่า ถูกบังคับค้าประเวณีอยู่ที่สถานบันเทิง KTV เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ซึ่งเล่าความโหดร้ายว่า พวกตนถูกข่มขู่ทำร้าย และกำลังจะถูกส่งไปขายต่อ
หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้โทรศัพท์หาทั้ง 2 คน ก่อนได้รับพิกัดที่ทั้ง 2 อยู่ จึงประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จ.ตาก ให้เข้าช่วยเหลือสองสาวออกมาได้เมื่อวันที่วันที่ 15 ก.พ. 67
กระทั่งวันที่ 16 ก.พ. 67 นางปวีณา ได้เดินทางไปรับด้วยตัวเองที่ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนจะให้อยู่ในความดูแลมูลนิธิปวีณาฯ
ด้าน น.ส.เอ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ ตนทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ กระทั่ง ช่วงเดือน พ.ย.66 ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนที่ อ.แม่สอด จ.ตาก กลางคืนได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในแม่สอดและได้พบกับชาวจีนคนหนึ่งบอกว่า ตนเองเปิดสถานบันเทิง KTV และชักชวนให้ไปทำงานพีอาร์ด้วย โดยจะมีรายได้เดือนละ 3-4 หมื่น รวมค่าทิปแขก ค่าดื่มแล้ว จะได้เดือนละ 1-2 แสนบาท
หลังจากวันนั้นตนก็กลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ แต่ก็ยังมีการติดต่อพูดคุยกับคนจีนดังกล่าวอยู่ตลอด ช่วงเดือน ธ.ค. 66 ตนจึงตัดสินใจลาออกจากงานก่อนเดินทางไปคนเดียวที่แม่สอดหวังจะทำงาน
คนจีนดังกล่าวให้ตนนั่งรถไปลงที่ บขส.แม่สอด จ.ตาก จากนั้นให้คนมารับเดินทางโดยรถยนต์อีก 2 ทอด ก่อนจะไปนั่งเรือข้ามฟาก ซึ่งตนไม่รู้ว่าฝั่งตรงข้ามนั้นเป็นพื้นที่ของประเทศเมียนมา
เมื่อเดินทางไปถึงที่ร้านบอสคนจีนเป็นผู้หญิงให้ทำงานพีอาร์เอนเตอร์เทนลูกค้า แต่ไม่เคยเจอหน้าหนุ่มคนจีนที่แนะนำ ที่นั่นไม่มีการบังคับค้าประเวณี ช่วง 10 วันแรกได้เงินถึง 4 หมื่นบาท ตนเห็นว่ารายได้ดีจึงได้ชักชวนน.ส.บี เพื่อนสนิทมาทำงานด้วย ช่วงที่น.ส.บีไปถึง บอสคนจีนได้คัดเกรดหญิงสาว และบังคับให้ตนกับน.ส.บี ค้าประเวณี
แต่ตนกับ น.ส.บีไม่ยอมทำจึงถูกขายต่อไปร้านที่ 2 ในวันที่ 25 ธ.ค.66 บอสเจ้าของร้านเป็นผู้ชายชาวจีนให้ตนกับ น.ส.บี เซ็นสัญญาเป็นหนี้คนละ 150,000 บาท และบังคับให้ค้าประเวณีใช้หนี้ ข่มขู่จะทำร้าย
ในส่วน น.ส.บี เล่าว่า ตนเป็นพนักงานขับรถบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นเพื่อนกับน.ส.เอ มา 4-5 ปีแล้ว น.ส.เอ บอกว่าไปทำงาน KTV รายได้ดี เป็นช่วงที่ตนกำลังอยากจะเปลี่ยนงานเพราะรายได้ไม่เพียงพอจึงตัดสินใจเดินทางไปทำงานด้วย ไปถึงไม่กี่วันก็ถูกบังคับให้ค้าประเวณีและถูกขายต่อพร้อมกับน.ส.เอ
ทางบอสชายคนจีนบังคับให้ค้าประเวณีเพราะเป็นหนี้กันคนละ 150,000 บาท ถ้าไม่ทำจะถูกทำร้าย จึงต้องยอมรับลูกค้าทั้งที่ไม่อยากทำ ตนเจอลูกค้าซาดิสม์ ทำร้าย ตบตี ก็ต้องทน ทางร้านไม่ช่วย ถ้าลูกค้าไม่พอใจไม่จ่ายเงิน ทางร้านก็จะมาต่อว่าเราและให้เป็นหนี้เพิ่ม และบอสคนจีนบอกจะขายตนกับน.ส.เอ ให้กับร้านอื่นต่อในวันที่ 11 ก.พ.67 ตนจึงอ้างกับบอสคนจีนว่าทางญาติกำลังจะหาเงินมาไถ่ตัวเพื่อยื้อเวลา ก่อนตัดสินใจร่วมกับน.ส.เอ ขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ
น.ส.ปวีณา กล่าวว่า การช่วยเหลือครั้งนี้ โชคดีที่ช่วยเหลือได้เร็ว การช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องง่ายและอาจจะช่วยไม่ได้ทุกคน จึงขอฝากเตือนคนไทยที่คิดอยากจะทำงานสบายรายได้ดีให้พึงระวัง อย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ เพราะงานสบายรายได้ดีไม่มีจริง อาจถูกหลอกบังคับค้าประเวณี กักขังบังคับเซ็นกู้เงิน สุดท้ายต้องใช้หนี้โดยค้าประเวณี ถูกทำร้ายเงินก็ไม่ได้ เหมือนตกนรกทั้งเป็น
หลังจากนี้ นางปวีณา จะพาทั้งสองคนเข้าแจ้งความกับ พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ สอบสวนขยายผล พร้อมพาไปตรวจร่างกาย รพ.ตำรวจ เพื่อพื้นฟูร่างกายและจิตใจ ต่อไป