เจาะแก๊งไซม่อน ใครเป็นใคร เกี่ยวกับอะตอมหรือไม่

เจาะแก๊งไซม่อน ใครเป็นใคร เกี่ยวกับอะตอมหรือไม่

เจาะแก๊งไซม่อน ใครเป็นใคร เกี่ยวกับอะตอมหรือไม่

#เจาะอะตอมหรือณิชากับประเด็นทำบัตรประชาชนหาย 

#อะตอมทำบัตรประชาชนหาย 3 ครั้ง บัตรที่หายไปครั้งที่ 1 ถูกนำไปสวมรอยเปิดบัญชี 9 บัญชี 7 ธนาคาร

อะตอม ทำบัตรประชาชนครั้งแรก เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2551 และได้ขอทำบัตรประชาชนใหม่เป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2557 จนกระทั่งอีก 3 ปีถัดมาวันที่ 18 กันยายน 2560 อะตอมมาขอทำบัตรประชาชนอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 เนื่องจากบัตรหายที่รถกระป๊อ อีกเพียง 1 เดือนถัดมา 6 ตุลาคม 2560 อะตอม ก็ทำกระเป๋าเงินตกหายที่รถกระป๊ออีกเช่นกัน และได้แจ้งความไว้ที่ สน. หลักสอง ก่อนที่จะขอทำบัตรประชาชนใหม่เป็นครั้งที่ 4 ในวันที่ 7 ตุลาคม 2560

ภาพจากอีจัน



คาดว่า ช่วงก่อน 18 กันยายน 2560 เป็นช่วงที่อะตอมทำบัตรประชาชนหายจากนั้นไม่ถึง 1 เดือน 21 ตุลาคม 2560 เวลา 17.55 น.คนร้ายปรากฎตัวที่ ธนาคารกสิกรไทย สาขาเดอะมอลล์ บางแค เป็นหญิงร่างท้วมจูงเด็กชายมาขอเปิดบัญชี เซ็นชื่อ ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ และใช้บัตรประชาชนใบนี้ โดยบัญชีนี้ มีการฝาก 48 ครั้ง จำนวนเงิน 1,909,496 บาท มีการถอน 176 ครั้ง จำนวนเงิน 1,909,410 บาท

ภาพจากอีจัน
ในวันเดียวกัน (21 ตุลาคม 2560 ) ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ผู้หญิงคนเดิม จูงเด็ก ไปปรากฏตัวที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเดอะมอลล์ บางแค ใช้บัตรประชาชนของ ณิชา และเซ็นชื่อลักษณะเดียวกันไปขอเปิดบัญชี ต่อมาบัญชีนี้ มีการฝาก 11 ครั้ง จำนวน 417,536 บาท ถอน 53 ครั้ง จำนวน 417,434 บาท
ภาพจากอีจัน
ถัดไป 2 วัน วันที่ 23 ตุลาคม 2560 ผู้หญิงร่างท้วม พร้อมเด็ก เข้าไปที่ธนาคารทหารไทย สาขาซีคอน บางแค ในเวลา 16.20 น.และขอเปิดบัญชี เซ็นชื่อ และ ใช้บัตรประชาชน ของณิชา ตามภาพ บัญชีนี้ มีการฝาก 56 ครั้ง จำนวน 1,249,820 บาท ถอน 93 ครั้ง 1235,820 บาท ตำรวจยังพบภาพ ผู้หญิงพรางตัว สวมวิกผมมากดเงินในบัญชีนี้ด้วย และยังมีข้อมูลว่า มีผู้เสียหาย ในคดีฉ้อโกงได้แจ้งที่ สภ.บ้านตาก โอนเงินเข้ามายังบัญชีนี้
ภาพจากอีจัน


หลังเปิดบัญชีนี้เสร็จ เวลา 17.55 น. ผู้หญิงคนเดิม จูงเด็กคนเดิม เดินไปยังธนาคารธนชาต สาขาสีลม ขอเปิดบัญชีเช่นกัน ข้อมูลการฝากถอนตอนนี้รอธนาคารแจ้งมา

ภาพจากอีจัน
ต่อมา อีก 7 วัน วันที่ 30 ตุลาคม 2560 หญิงคนเดิมพร้อมเด็ก ปรากฎตัวที่ธนาคารกรุงไทย สาขาเดอะมอลล์ บางแค ขอเปิดบัญชี เป็นบัญชีที่ 5 มีการฝาก 1 ครั้ง 800 บาท ถอน 7 ครั้ง จำนวน 714 บาท ใช้บัตรประชาชนและลายเซ็นตามภาพ
ภาพจากอีจัน
เวลาผ่านไปอีกเกือบ 1 เดือน วันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 เวลา 11.20 น. มีผู้หญิงอีกคนสวมแมส ถักเปียคู่ปิดบังใบหน้า เข้าไปขอเปิดบัญชีที่ธนาคารออมสิน สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน โดยใช้บัตรประชาชนของ ณิชา พร้อมลายเซ็นตามภาพ บัญชีนี้มีการฝาก 15 ครั้ง 512,381 บาท ถอน 74 ครั้ง จำนวน 482,541 บาท ตำรวจพบภาพ ขณะเธอไม่สวมแมสด้วย
ภาพจากอีจัน
ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 10.35 น. ผู้หญิงคนดังกล่าว ใส่แมส ถักเปีย ไปขอเปิดบัญชีที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน โดยมีเอกสารและลายเซ็นตามภาพ ซึ่งต่อมาพบบัญชีนี้มีการฝาก 32 ครั้ง 920,108 บาท ถอน 88 ครั้ง 870,000
ภาพจากอีจัน
ตำรวจตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้อง กับ 7 บัญชีดังกล่าว พบ ภาพวงจรปิด ของผู้ชายคนหนึ่ง กดเงินจากบัญชีต้องสงสัยนี้ ตรวจสอบพบ ชายคนดังกล่าวใช่บัตรเอทีเอ็ม บัญชีธนาคารกรุงเทพ กดตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย สาขา เดอะมอลล์บางกะปิ ในวันที่ 4 ธันวาคม 2560 3 ครั้ง เป็นเงิน 40,000 บาท
ภาพจากอีจัน


และยังพบกล้องวงจรปิดจับภาพชายคนเดียวกัน ใช้เอทีเอ็มไทยพาณิชย์ กดเงินจากตู้เอทีเอ็มกรุงศรีอยุธยา สาขา จีทาวน์เวอร์พระราม 9 ในวันที่ 23 พ.ย.2560 เป็นจำนวน 13 ครั้ง กดเงินออกไป 369,000 บาท ตำรวจจึงสืบหาผู้ชายคนดังกล่าว

ภาพจากอีจัน
และยังพบผู้ชายคนนี้ปรากฎตัวกดเอทีเอ็มตามที่ต่าง ๆ อีกหลายที่ บางครั้งจะมีผู้หญิงสวมวิกผม พรางตัว ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วย
ภาพจากอีจัน
ตำรวจจึงตามรอยของชายผู้ต้องสงสัย พบพักอยู่ที่ คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง วันที่ 10 มกราคม 2561 จึงแสดงหมายจับ ชายต้องสงสัย พบชื่อ นาย ไซม่อน อีโก้ (SIMOM EKO) ใช้หนังสือเดินทางสัญชาติ แคเมอรูน อายุ 31 ปี ตรวจสอบประวัติพบว่า นายไซม่อน เคยถูกผลักดันออกนอกประเทศในปี 2016 โดยขณะนั้นเขาใช้พาสปอร์ตสัญชาติไนจีเรีย เบื้องต้นจึงต้องตรวจสอบว่า พาสปอร์ตสัญชาติแคเมอรูนเป็นของปลอมหรือไม่
ภาพจากอีจัน
เมื่อค้นห้อง ของนายไซม่อนพบเสื้อผ้าและแว่นตา ที่เป็นลักษณะตรงกับภาพที่เป็นกล้องวงจรปิดขณะกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม
ภาพจากอีจัน
พบมือถือ 3 เครื่อง ตรวจสอบมือถือ พบ เอสเอ็มเอส แจ้งว่ามีเงินเข้าในชื่อบัญชีของ ณิชา ส่งมายังโทรศัพท์ของนายไซม่อม จึงเป็นหลักฐานมัดตัวเขาว่า เกี่ยวข้องกับการสวมบัตรของ ณิชา อย่างแน่นอน
ภาพจากอีจัน
ประวัติของนายไซม่อมอีกอย่างคือ มีผู้เสียหายรายหนึ่งเคยโอนเงินเข้าในบัญชี 1 ใน 9 ที่ถูกสวม สอบสวนพบว่า เหยื่อเป็นหญิงเคยแจ้งความคดีฉ้อโกงที่ สภ.บ้านตาก จ.ตาก พฤติกรรมของคนร้ายไม่ใช่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่เป็นการหลอกลวงในลักษณะของโรมานส์ ในรายละเอียดเดี๋ยวอีจันจะสืบให้อีกทีนะ ตำรวจ ตม.ค้นละเอียด ๆ ก็พบกุญแจสำคัญ เป็นกระดาษเล็ก ๆ เขียนคำว่า ปวีณา พร้อมเบอร์โทรศัพท์ งานนี้เลยโป๊ะ ตำรวจแกะจากกระดาษชิ้นนี้ ก็พบ ในหน้าของปวีณา เจ้าของเบอร์โทรศัพท์ ในกระดาษโน๊ต
ภาพจากอีจัน
เปรียบเทียบหน้าของปวีณา กับ ผู้หญิง จูงเด็กเรื่องก็เลย เอวัง ในที่สุด ตำรวจก็รู้แล้วว่า ผู้หญิงจูงเด็ก เข้าไปสวมบัตร ณิชา เปิดบัญชีคือใคร วันที่ 13 มกราคม 2561 ตำรวจตามรอยไม่นานก็ได้ตัวปวีณา สิงหวิบูลย์ อาชีพ รับจ้างทั่วไป เธอยอมรับสารภาพหมดเปลือกว่า รับจ้างเปิดบัญชีโดยมีเพื่อนชื่อแอนเป็นคนติดต่อ โดยสัญญาว่าจะให้เงินจำนวน 1 หมื่นบาทเป็นค่าตอบแทน แต่ที่ผ่านมาได้เงินมาเพียง 4000 บาทเท่านั้น และเมื่อถามว่า แอนคือใคร คราวนี้ตำรวจก็ได้ข้อมุลเปิดโฉมหน้าของผู้หญิงใส่แมส
ภาพจากอีจัน
ปวีณา ให้การซัดทอด ว่าแอน คือ ผู้หญิงที่ใส่แมส ถักเปีย ไปเปิดบัญชี ตำรวจสืบหาชื่อจริงไม่นานก็พบว่า แอน คือ นางสาวเจรติ สายสิน อายุ 31 ปี มีความสัมพันธ์เป็นอดีตแฟนสาวของ นายไซม่อน เมื่อสืบหาตัว นางสาวเจรติ กลับพบว่า เธอมีประวัติถูกจับที่ สภ.โพธ์แก้ว ในวันที่ 2 มกราคม 2561 ในคดีฉ้อโกง ตำรวจจึงอายัดตัว แอน หรือ เจรติ ไว้สอบสวนถือเป็นผู้ต้องหาคนที่ 3 ที่สวมรอยเปิดบัญชีของ ณิชา แต่คดีนี้ยังมีผู้ต้องหาคนที่ 4 คือ ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ นายไซม่อน ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร
ภาพจากอีจัน
ตำรวจย้อนดูเอกสารในห้อง ไซม่อนอีกครั้ง พบมีบัตรประชาชนของผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อนางสาวพรหมพร พงษ์เจริญคุณากร เมื่อเปรียบเทียบหน้าของ นางสาวพรหมพร จากบัตรประชาชน เทียบกับหน้าในกล้องวงจรปิดก็พบว่า เป็นบุคคลคนเดียวกัน ตำรวจจึงออกหมายเรียนนางสาวพรหมพร มาสอบสวนหาความสัมพันธ์กับแก๊งนี้ ข้อมูลที่ตำรวจต้องค้นหาต่อไปคือ การทำงานของแก๊งนี้ ทั้งไซม่อน ปวีณา แอน และ พรหมพร มีความเชื่อมโยงกับ ณิชา หรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไป