ช็อกนายแบบกระโดด สะพานพระราม8

จากเหตุเมื่อช่วงบ่ายของ วันที่ 5 ส.ค.61 สน.บวรมงคล รับแจ้งมีชายกระโดดจากสะพานพระราม 8 !!! สูญหายไปในแม่น้ำเจ้าพระยา จึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และนักประดาน้ำมูลนิธิร่วมกตัญญูรุดไปตรวจสอบ

จากการตรวจสอบบริเวณพื้นช่องทางเดินเท้า ช่วงก่อนถึงกลางสะพานทิศทางจากฝั่งพระนครมุ่งหน้าฝั่งธนบุรี เจ้าหน้าที่พบทรัพย์สิน ประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือไอโฟน 10 สีดำด้านหลังมีรูปถ่ายเด็กผู้ชายอายุประมาณ 2-3 ขวบ ติดอยู่ 1 เครื่อง นอกจากนี้ยังมีพาวเวอร์แบงก์ 1 ตัว และรองเท้าแตะสีดำ อีก 1 คู่ ส่วนเจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวกระโดดลงไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาสูญหายไป

จากการสอบสวน ชาวบ้านซึ่งกำลังตกปลาอยู่บริเวณใต้สะพาน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงคนกระโดดน้ำลงมาจากด้านบนสะพาน พอหันไปดูพบผู้ชาย ยังวัยรุ่น อายุราวๆ 25-30 ปี ไว้ผมรองทรง สวมเสื้อแขนกุดสีดำ ลอยตัวอยู่ในน้ำ ซึ่งทีแรกตนคาดว่า เจ้าตัวน่าจะว่ายน้ำเป็น เพราะได้พยายามว่ายเข้าฝั่งและเกือบจะถึงตลิ่งอยู่แล้ว อีกแค่ราวๆ 50 เมตรเท่านั้นก่อนที่จะหมดแรงจมหายไปต่อหน้าต่อตา อย่างไรก็ตามทราบว่าก่อนที่ชายคนนี้จะกระโดดน้ำ มีพลเมืองดีพยายามตะโกนห้ามปราม และบันทึกภาพเอาไว้ขณะที่ชายดังกล่าวนั่งห้อยเท้าอยู่บนราวสะพานก่อนทิ้งตัวลงแม่น้ำเอาไว้ได้

หลังจากได้ประสานให้พนักงานสอบสวนเดินทางมาตรวจสอบ ในช่วงแรกยังไม่ทราบว่าเป็นใคร จึงทำการค้นหาร่าง โดยให้นักประดาน้ำได้ระดมกำลังไปตั้งศูนย์ปฏิบัติการที่ท่าน้ำวัดสามพระยา ฝั่งพระนคร เพื่อวางแผนร่วมกันทำการค้นหาอย่างเร่งด่วนแล้ว ซึ่งผลการส่งนักประดาน้ำลงไปปฏิบัติการ จำนวน 2 ชุด ก็ยังไม่พบร่างชายนิรนามผู้นี้แต่อย่างใด

จนต่อมาในช่วงเย็นวันเดียวกัน(5ส.ค.61) นายประชา ชาภัคดี อายุ 50 ปี อาของผู้เสียชีวิต เดินทางมาพบ ตำรวจสน.บวรมงคล หลังจากทราบว่านายธรรมศร ชาภัคดี หรืออั๋น อายุ 26 ปีหลานชายที่ตัดสินใจกระโดดสะพานพระราม 8 จมหายไปในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อขอทราบรายละเอียดการเสียชีวิตของหลานชาย

โดยกล่าวว่า ยังรู้สึกตกใจและแปลกใจที่หลานชายมาตัดสินใจจบชีวิตแบบนี้ จนถึงขณะนี้ก็ยังไมพบศพ ซึ่งตนเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กๆ เพราะพ่อแม่เขาเสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็กๆ ซึ่งเมื่อวานยังได้พบแล้วคุยกับหลานตามปกติและยังมากินข้าวด้วยกัน พูดคุยเรื่องที่เขาอยากจะมีธุรกิจส่วนตัว เรื่องเกี่ยวกับธุรกิจสปาเสริมความงาม และกำลังจะลงทุนร่วมกับเพื่อนๆ แต่ว่ามีหุ้นส่วนถอนตัวออกไปทำให้มีภาระทางด้านการเงินเล็กน้อย ซึ่งในช่วงระหว่างคุยกันไม่ได้แสดงท่าทีว่ามีความวิตกกังวลใดๆเลยและยังพาไปดูตึกอาคารที่จะใช้เป็นสถานที่ทำร้านสปาแถวรามคำแหงและย่านห้วยขวาง ก่อนจะไปกินข้าวกันตามปกติในหมู่ญาติๆ และยังคุยว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมายังไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และซื้อของเล่นมาฝากหลานด้วย ซึ่งตนยังรู้สึกตกใจกับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าหลานชายมาจบชีวิตแบบนี้

ซึ่งเพื่อนๆ ที่เดินทางมาด้วย กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนน่ารัก นิสัยดี มีเพื่อนเยอะ ยังเคยเป็นนายแบบถ่ายแฟชั่นเสื้อผ้าลงในหนังสือต่างประเทศ อีกทั้งเป็นคนที่ดูแลสุขภาพของตัวเองมากๆ ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ แต่เป็นคนชอบเก็บความทุกข์ไว้ โดยไม่บอกใครบางครั้งก็ตื่นมาช่วงดึกๆ นั่งนิ่งๆเก็บตัว จนบางครั้งเพื่อนๆต้องมานอนเป็นเพื่อนเฝ้ากันทั้งคืนก็มี