ศาลยกฟ้อง หมอนิ่มรอดประหาร

วันนี้ (7 ส.ค.61) ศาลจังหวัดมีนบุรีนัดอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในคดีจ้างวาน ฆ่านายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือเอ็กซ์ อดีตนักยิงปืนทีมชาติไทย หลังโจทก์ฟ้อง หมอนิ่ม แพทย์หญิงนิธิวดี ภู่เจริญยศ ,นางสุรางค์ ดวงจินดา แม่หมอนิ่ม , นายสันติ ทองเสม ทนายความ , นายจีรศักดิ์ กลิ่นคล้าย (มือปืน) และ นายธวัชชัย เพชรโชติ (ผู้ขี่จักรยานยนต์) เป็นจำเลยที่ 1 ถึง 5 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ และ จ้างวานฆ่าฯ

ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์และพิพากษา ยกฟ้อง หมอนิ่ม โดยไม่ต้องรับโทษ หรือ ชดใช้ค่าสินไหม เนื่องจาก หมอนิ่ม ยังมีความรัก ความห่วงใย ความผูกพัน กับผู้ตาย จึงไม่เชื่อว่าเป็นเหตุจูงใจให้ก่อเหตุจ้างวานฆ่า

ส่วน นางสุรางค์ แม่หมอนิ่ม ศาลพิเคราะห์และเห็นว่าให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษ 1 ใน 3 จำคุกตลอดชีวิต เนื่องจาก มารดามีอาการโกรธแค้น เห็นลูกและหลานตนถูกทำร้าย ถึงแม้ผู้ตายมีการมาขอขมาแล้ว แต่ก็ไม่เชื่อว่าผู้ตายจะสามารถเปลี่ยนนิสัยได้ จึงได้ตัดสินใจจ้างวานฆ่า

ส่วนนายจิรศักดิ์ ทำหน้าที่มือปืนและนายธวัชชัย ทำหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์ให้มือปืน พิพากษาจำคุกตลอดชีวิตตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น

ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาประหารชีวิตสถานเดียวหมอนิ่ม และนายสันติ หรือทนายอี๊ด ส่วนคนขี่ จยย. และมือปืนให้จำคุกตลอดชีวิต ส่วนนางสุรางค์ แม่หมอนิ่ม ให้ยกฟ้อง

คดีพลิก !!!

ย้อนไปเมื่อวันที่ 19 ต.ค.56 เกิดเหตุการณ์สังหารโหด มีชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ตามกระหน่ำยิงรถเก๋งปอร์เช่ จนหยุดชะงัก คนขับรถปอร์เช่คือ “เอ็กซ์” จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย นอนหายใจโรยรินอยู่บนที่นั่งฝั่งคนขับ และมี น้ำหวาน แม่บ้านวัย 19 ปี นั่งมาเคียงข้างขดตัวหลบกระสุนอยู่

หลังเกิดเหตุเพียง 5 นาที หมอนิ่มก็มาถึง และช่วยปฐมพยาบาล และส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาล แต่ในที่สุด เอ็กซ์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่โรงพยาบาล..

แต่เเล้วตำรวจก็พบประเด็นน่าสงสัย เมื่อย้อนทามไลน์ชีวิตของ เอ็กซ์ ไปเมื่อ 4 เดือนก่อน เขามีคดีความกับหมอนิ่ม ฐานทำร้ายร่างกายและใช้ปืนข่มขู่หมอนิ่ม โดยอ้างว่าเอ็กซ์ติดยาไอซ์ จนประสาทหลอน จนทำให้เอ็กซ์โดนจำคุก

แต่ขณะที่เอ็กซ์ถูกจำคุกอยู่ ตู้เซฟในธนาคารของเขากลับมีคนปลอมหนังสือมอบอำนาจเอาทรัพย์สินออกไป 60 ล้านบาท

เมื่อ เอ็กซ์ ถูกปล่อยตัวชั่วคราว จึงไปแจ้งความ หมอนิ่ม ฐานลักลอบขนทรัพย์สินในตู้นิรภัย แต่หมอนิ่มปฏิเสธข้อกล่าวหาลักทรัพย์ เนื่องจากอ้างว่า เอ็กซ์ ให้กุญแจไว้ที่ตน 1 ดอก และอนุญาตให้ไขตู้เซฟได้ตลอดเพราะถือเป็นทรัพย์สินร่วมกัน และนำทรัพย์สินเหล่านั้นออกมาเพื่อดูแลลูกทั้ง 2 คน พร้อมขอให้กรมคุ้มครองสิทธิฯ มาคุ้มครองตนเองและลูก

เเต่สุดท้ายเเล้ว หมอนิ่ม ก็ให้อภัย เอ็กซ์ เเต่ยังไม่ขอกลับไปอยู่ด้วย เพราะอยากให้เอ็กซ์ พิสูจน์ตัวเองก่อน จนเวลาผ่านไป 1 เดือน ก็เกิดเหตุการณ์ สังการโหดเกิดขึ้น

วันที่ 9 พ.ย.56 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ก็สามารถจับมือปืนสังหาร เอ็กซ์ ได้ คือ นายจิรศักดิ์ กลิ่นคล้าย สารภาพว่ารับงานจาก น.ส.วรพรรณภูรี มนตรีอารีกุล หรือเจ๊แหม่ม และทนายอี๊ด สันติ ทองเสน ด้วยค่าจ้าง 2 แสน โดยแบ่งกับนายธวัชชัย เพชรโชติ คนขับมอเตอร์ไซค์ คนละ 1 แสนบาท

วันที่ 10 พ.ย. 56 ตำรวจจับ ทนายอี๊ด และ เจ๊แหม่ม ได้โดยสารภาพว่ารับจ้างมาจาก นางสุรางค์ ดวงจินดา แม่ของหมอนิ่ม ในราคา 1.2 ล้านบาท

วันที่ 11 พ.ย. 56 หมอนิ่ม พาแม่เข้ามอบตัว โดยสารภาพว่า "ทนไม่ได้ที่เห็นลูกสาวโดน เอ็กซ์ ทำร้ายหนักถึงกับแท้งลูกคนที่ 3 และยืนยันว่าเหตุการณ์ครั้งนี้หมอนิ่มไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย เป็นฝีมือของตนเองทั้งหมด" ส่วนหมอนิ่ม เผยว่า "หากรับผิดแทนแม่ได้ก็พร้อมจะทำ และที่ครอบครัวจบลงวันนี้เพราะยาเสพติดและความรุนแรง อยากให้ทุกคนดูไว้เป็นอุทาหรณ์"

แต่สุดท้าย ทั้งหมดรวมถึงหมอนิ่ม ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยจ้างวาน ใช้ ยุยง ส่งเสริมให้ฆ่า และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน เนื่องมาจากความขัดแย้งในครอบครัว

วันที่ 19 ธ.ค. 59 ศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิต “หมอนิ่ม” พร้อม “ทนายอี๊ด” ส่วนมือปืนและคนขี่รถรถจักรยานยนต์ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนแม่หมอนิ่มศาลยกฟ้อง แต่ต่อมา วันที่ 21 ธ.ค. 59 ศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว หมอนิ่ม โดยตีราคาประกัน 2.5 ล้านบาท