เหยื่อแชร์ลูกโซ่ทองคำร้อง ดีเอสไอ หลังถูกหลอกลงทุนกว่า 200 ล้านบาท

กลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกลงทุนทองคำ(แชร์ลูกโซ่)ประมาณ 30 คน เดินทางเข้ามาร้องเรียนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังถูกหลอกลงทุนกว่า 200 ล้านบาท

เหยื่อแชร์ลูกโซ่ทองคำ ยื่นร้อง ดีเอสไอ หลังถูกหลอกลงทุนสูญเสียกว่า 200 ล้านบาท



วันนี้ (24 ม.ค.) เวลา 09.30 มีกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกลงทุนทองคำ(แชร์ลูกโซ่)ประมาณ 30 คน เดินทางเข้ามาร้องเรียนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมี ร.ต.อ. ปิยะ รักสกุล ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน

ภาพจากอีจัน
หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเริ่มต้นลงทุน เพราะรู้จักกับคนร้ายและทำงานอยู่ที่ร้าน ซึ่งหลังจากสมัครสมาชิกแล้วก็ได้รับเงินปันผลจริงตามที่กำหนด แต่พอหลังๆจะมีการโอนเงินบ้างและไม่โอนเงินบ้าง กระทั่งประมาณปลายปี 60 ที่ผ่านมา คนร้ายบอกว่าจะทำการปิดร้านตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2560 – 5 ม.ค. 2561 โดยหลังจากนั้นคนร้ายก็หายไป และได้ทำการปิดร้านซึ่งคนร้ายอ้างว่าล้มละลาย อีกหนึ่งผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อช่วงประมาณ ต.ค.60 ที่ผ่านมา มีบุคคลทักเฟซบุ๊กมาหาตน ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นผู้ชายที่ตนรู้จักเพราะเป็นนักดนตรีในวงการหมอลำด้วยกัน มาชักชวนให้ร่วมลงทุนขายทองคำ ค่าสมัครเริ่มต้นลงทุน 18,500 บาทหรือเท่ากับทองคำหนัก 1 บาท ปันผลทุก 10 วัน ครั้งละ 1,200-1,500 บาท โดยอ้างว่าเป็นตัวแทนร้านทองแห่งหนึ่งทำหน้าที่ซื้อมาขายไป รวมถึงยังโพสต์เฟซบุ๊กภาพนำเงินสดมาซื้อรถยนต์และโพสต์โชว์สลิปเงินโอนจำนวนมาก เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือ
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ต่อมากลุ่มผู้เสียหายได้รวมตัวกัน ทำให้ทราบว่าคนร้ายเป็นสองสามีภรรยา ซึ่งผู้ชายเป็นนักดนตรีในวงการหมอลำ ส่วนผู้หญิงเคยเป็นพยาบาลมาก่อน พร้อมขอชดใช้ค่าเสียหาย 200,000 บาทต่อราย แลกกับยินยอมไม่เอาความทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา โดยมีคนทั้งรับและไม่รับเงินจำนวนดังกล่าว ทำให้วันนี้(24 ม.ค. 61)กลุ่มผู้เสียหายเดินทางมาจาก จ.อุบลราชธานี เพื่อขอให้รับเป็นคดีพิเศษและต้องการเงินลงทุนคืนจากคนร้าย
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ด้าน ร.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า เบื้องต้น หลังรับเรื่องดังกล่าวเรียบร้อยแล้วจะนำเข้าตรวจสอบ ก่อนเสนอ อธิบดีดีเอสไอ พิจารณาตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ระยะเวลาประมาณ 15 วัน ว่ารับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ หากไม่รับ ดีเอสไอ จะส่งเรื่องให้ตำรวจท้องที่ดำเนินการต่อให้เสร็จสิ้น เพราะทราบว่ากลุ่มผู้เสียหายเคยแจ้งความเอาไว้แล้ว