เบื้องหลังออกหมายจับ “คิลเลอร์เกิร์ล” และแฟนหนุ่ม ฆ่าเผานั่งยางชาวอิตาลี

ย้อนเหตุการณ์ช่วงสายของวันที่ 19 ม.ค.2561 ตำรวจ สภ.บึงนางราง จ.พิจิตร รับแจ้งเหตุพบศพชายนิรนามถูกเผานั่งยาง

ออกหมายจับ “คิลเลอร์เกิร์ล” และแฟนหนุ่ม ฆ่าเผานั่งยางชาวอิตาลี

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


ย้อนเหตุการณ์ช่วงสายของวันที่ 19 ม.ค.2561 ตำรวจ สภ.บึงนาราง จ.พิจิตร รับแจ้งเหตุพบศพชายนิรนามถูกเผานั่งยาง บริเวณป่าข้างสระน้ำบึ่งทับจั่น หมู่ที่ 3 ต.แหลมรัง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร ในที่เกิดเหตุตำรวจพบหลักฐานที่เหลือจากไฟไหม้เป็นชิ้นส่วนแขนขาของผู้เสียชีวิต โดยบริเวณน่องขวาพบรอยสักเป็นรูปกราฟฟิกสีดำ รวมถึงพบเหรียญสกุลเงินต่างประเทศและซิปกระเป๋าขนาดใหญ่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
การสืบสวนคลี่คลายคดีของชุดสืบสวน สภ.บึงนาราง ชุดสืบสวนของ บก.ภ.จว.พิจิตร และชุดสืบสวนของ บก.สส.ภ.6 วิเคราะห์สถานที่เกิดเหตุเชื่อว่าจุดที่พบศพไม่น่าจะเป็นจุดฆาตกรรมแต่เป็นจุดที่ทิ้งอำพรางศพ การวิเคราะห์สถานที่เกิดเหตุอันดับแรกเชื่อว่าคนร้ายน่าจะคุ้นเคยหรือรู้เส้นทางเพราะเป็นจุดที่เปลี่ยวไม่ค่อยมีบุคคลพลุกพล่าน ข้อวิเคราะห์ลักษณะของผู้เสียชีวิตที่หลงเหลือเพียงชิ้นส่วนร่างกายพบว่าเล็บเท้าของผู้เสียชีวิตค่อนข้างสะอาดอีกทั้งมีการดูแลเล็บเท้าเป็นอย่างดี รวมถึงลอยสักที่พบเป็นรอยสักที่ประณีตน่าจะราคาแพง รวมถึงเศษเหรียญสกุลเงินต่างประเทศและซิปกระเป๋าขนาดใหญ่ที่พบอาจจะเป็นการอำพรางหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้ปักใจเชื่อ
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ข้อสรุปการวิเคราะห์ทั้งหมดจึงพุ่งประเด็นผู้เสียชีวิตอาจไม่ใช่คนไทยแต่อาจจะเป็นชาวต่างชาติ ชุดสืบสวนจึงกระจายกำลังค้นหาพยานหลักฐานจากจุดที่เกิดเหตุรวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกเส้นทางที่เข้ามายังจุดที่พบผู้เสียชีวิต เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังรับแจ้งเหตุและการวิเคราะห์สถานที่เกิดเหตุรวมถึงความน่าจะเป็นว่าผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติ ชุดสืบสวนพบเบาะแสว่าบริเวณใกล้เคียงในพื้นที่พบหญิงไทยคนหนึ่งทราบชื่อภายหลังว่า นางรุธจิรา เอี่ยมละม้าย อายุ 38 ปี มีแฟนเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งชุดสืบสวนตรวจสอบข้อมูลแวดล้อมพบว่า น.ส.รุธจิรา เคยมีสามีเป็นคนไทยและมีลูกด้วยกัน 2 คน ซึ่งได้แยกกันอยู่แต่ไม่ได้หย่าร้างกัน นอกจากนี้ นางรุธจิรา ยังมีแฟนเป็นชาวต่างชาติ 2 คน โดยข้อมูลแวดล้อมระบุว่านางรุจิรา ทะเลาะกับแฟนชาวต่างชาติบ่อยครั้ง อีกทั้งเคยทำร้ายร่างกาย 1 ใน 2 แฟนชาวต่างชาติเคยถูกนางรุจิรา ใช้มีดฟันบริเวณใบหน้าได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตำรวจเคยเข้ามาตรวจสอบแต่ผู้เสียหายคือนายอามัวรี่ ริกกัว ชาวฝรั่งเศส ไม่ติดใจเอาความ ข้อพิรุธเพิ่มเติมจากข้อมูลแวดล้อมทำให้ชุดสืบสวนตั้งข้อสงสัยเพราะข้อมูลแวดล้อมระบุว่าไม่พบเห็นชาวต่างชาติอีกคนนานหลายวันแล้ว ประกอบกับชุดสืบสวนบางชุดทตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่เข้าออกจุดที่พบศพ พบภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส เข้าออกที่จุดที่พบศพและขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็ว ตรงกับคำให้การของพยานที่พบศพแล้วแจ้งผู้ใหญ่บ้านทราบถึงความผิดปกติพบศพถูกฆ่าเผานั่งยาง ข้อมูลรถยนต์หมายเลขทะเบียน กค 1374 สมุทรสงคราม ถูกนำมาวิเคราะห์กับภาพรถยนต์ที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้ตำหนิรูปพรรณคล้ายกับรถยนต์ของนางรุจิรา ขณะเดียวกันนายลูก้า เดอ สเตฟานี อายุ 30 ปี เดินทางมาที่ สภ.บึงนางราง เพื่อพบพนักงานสอบสวนแจ้งว่าผู้เสียชีวิตที่ถูกฆ่าเผานั่งยางน่าจะเป็นพ่อคือนายจูเซปเป เดอ สเตฟานี เนื่องจากจำรอยสักที่น่องขวาได้
ภาพจากอีจัน


ข้อมูลทั้งหมดเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวนมากยิ่งขึ้นว่า นางรุธจิรา และนายอามัวรี่ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น ชุดสืบสวนจึงแสวงหาข้อมูลพยานหลักฐานเพิ่มเติมพบว่านางรุจิรา เข้าไปที่ห้างแมคโครเพื่อขายโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งยังพบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารแห่งหนึ่งพบว่านางรุธจิรา ใช้บัตรเอทีเอ็มซึ่งเป็นของนายจูเซปเป กดเงินสดออกจากตู้เอทีเอ็มจำนวนหลักหมื่นบาท รวมถึงการสืบสวนสอบสวนพยานกว่า 10 ปาก ซึ่งเป็นผู้ให้ถ้อยคำให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการคลี่คลายคดี

โดยช่วงบ่ายของวันที่ 24 มกราคม 2561 พ.ต.อ.ชัยเสถียร มณีจักร ผกก.สภ.บึงนาราง พร้อมพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดพิจิตร พิจารณาขออนุมัติหมายจับโดยศาลอนุมัติหมายจับที่ 12/2561 ให้จับนางรุธจิรา และ หมายจับที่ 13/2561 ให้จับนายอามัวรี่ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันปิดบังซ่อนเร้นอำพรางทำลายศพ